
แม้จะเป็นเพียงขั้นตอนแรกของการตั้งกองทุน แต่การจดทะเบียนในเดลาแวร์ ก็ถือเป็นก้าวสำคัญก่อนยื่นเอกสารด้านกฎระเบียบอื่น ๆ ต่อ SEC เพื่อขออนุมัติอย่างเป็นทางการ
BlackRock’s iShares Ethereum Trust ETF (ETHA) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 กลายเป็นกองทุน Ethereum ETF ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
แต่กองทุนดังกล่าวยังไม่รองรับ Staking โดย BlackRock เคยระบุไว้ว่า “ETF ของเรายังไม่สามารถนำ ETH ไป stake ได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเชิงกฎระเบียบและความซับซ้อนทางปฏิบัติ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา BlackRock และผู้ออกกองทุนรายอื่น ๆ ได้ยื่นข้อเสนอขอ “แก้กฎ” กับ SEC เพื่อเปิดทางให้กองทุน Spot Ether ETF สามารถเพิ่มฟีเจอร์ staking ได้ในอนาคต
Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg ระบุว่า กองทุนใหม่ของ BlackRock ยื่นภายใต้กฎหมาย Securities Act of 1933 ซึ่งเข้มงวดด้านการเปิดเผยข้อมูล เพื่อคุ้มครองนักลงทุนก่อนเสนอขายหุ้นกองทุนต่อสาธารณะ
โดยปัจจุบันมีกองทุน ETF ที่อิงกับคริปโท กว่า 70 รายการ ที่รอการอนุมัติ หลังล่าช้าจากภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อนานกว่า 43 วัน
การเพิ่มฟีเจอร์ staking ให้ Ethereum ETF จะช่วยสร้าง “รายได้ประจำ” เพิ่มจากกำไรที่ได้จากราคา ทำให้ผลตอบแทนรวมดีขึ้น และดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนแบบมีดอกผล โดยคาดว่าการ stake ETH จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 3.95% ต่อปี
แม้ตลาดจะคึกคักด้วย ETF ฝั่ง altcoins ที่เริ่มเปิดให้ซื้อขายมากขึ้น แต่เจ้าใหญ่อย่าง BlackRock ยังไม่ได้ลงมาเล่น โดยยังเปิดเฉพาะ Bitcoin และ Ethereum ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัว Bitcoin Premium Income ETF ที่เน้นทำ yield ผ่านกลยุทธ์ covered calls
ที่มา : cointelegraph
แปลและเรียบเรียง : สหรัฐ ฉัตราพงษ์