ภายในงาน Thailand Blockchain Week 2025 เวทีเสวนา “ถอดรหัสคริปโต : เปิดเทคนิคที่เจ้ามือในตลาดคริปโตใช้กินตังคุณ” โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาคือ ผศ.ดร. อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน หรือ “ดร.เอ็ม” “ดร.บิ๊ก” ณปภัช ปิยไชยกุล เจ้าของช่อง The BIG Secret Channel เพื่อถอดกลไกเบื้องหลัง “เกมของเจ้ามือ”
ดร.เอ็ม กล่าวว่า พฤติกรรมของเจ้ามือในตลาด Spot ยังคงวนอยู่ใน “ลูปเดิม” ที่แบ่งได้เป็น 3 เฟส
1️. เก็บของเงียบ ๆ ตอนราคาต่ำ
2️. สร้างเรื่องราว–ปลุกกระแส
เพื่อดึงนักลงทุนรายย่อยเข้ามา
3️. ปล่อยของ–ทุบราคา
แล้ววนกลับไปเก็บใหม่อีกครั้ง
ดร.เอ็ม ย้ำว่า กลยุทธ์นี้เป็น “เกมที่ออกแบบมาเพื่อดูดเงินจากอารมณ์คน” และในตลาด Futures ยิ่งชัดเจน เพราะ “เหมือนเจ้ามือหวย” ที่ระบบของกระดานเทรดอิงกันอยู่ตลอดเวลา คนที่อยู่บนสุดของโครงสร้างย่อม “ไม่มีวันอยากเสียเงิน” อยู่แล้ว
ทั้งสองคนยังกล่าวถึงเหตุการณ์ “ล้างพอร์ตมโหฬาร” ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ทำให้นักเทรดกว่า 1.6 ล้านรายทั่วโลก ถูก liquidated มูลค่ารวมกว่า 6.3 แสนล้านบาท หลังบิตคอยน์ร่วงจาก 122,000 ดอลลาร์ มาเป็น 102,000 ดอลลาร์ ภายในไม่กี่ชั่วโมง
ดร.เอ็ม มองว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ “สะท้อนเกมอันน่ารังเกียจที่เจ้ามือยังใช้ในปี 2025” โดยในช่วงเวลาตี 4 ราคาคริปโททั่วโลกไหลลงแรง เช่น ETH จาก 4,000 ดอลลาร์ เหลือ 3,378 ดอลลาร์ และ BNB จาก 1,200 ดอลลาร์ เหลือ 860 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดกลับในนาทีถัดมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มันคือการลากไปกินตับอย่างแท้จริง… ผมไม่ได้เกลียด Players แต่ผมรังเกียจ the Game” ดร.เอ็ม
ทั้งนี้ ดร.เอ็ม ย้ำว่า สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่พฤติกรรมของเจ้ามือ แต่คือ “การไม่มีมาตรการสอบสวนหรือควบคุมใด ๆ” ทั้งที่เหล่าผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโทพยายามเคลมตัวเองว่าเป็น “สินทรัพย์กระแสหลักของโลก”
ด้านดร.บิ๊ก เสริมว่า “เจ้ามือในตลาดคริปโทมีจริง” และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอล แต่เกี่ยวพันกับ ปัจจัยทางการเมือง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ และจีน ที่ส่งผลต่อราคาและอารมณ์ตลาดโดยตรง
“มันคือการปล้น market maker สามารถกินเงินเราได้ในเสี้ยววินาที และมันเลวร้ายมาก ปี 2025 แล้วไม่ควรมีอะไรแบบนี้อีก” ดร.บิ๊ก
ทั้งสองยังเตือนให้นักลงทุนจับตา บริษัทคลังสำรองคริปโต (Digital Asset Treasury) และ กระดานเทรด เพราะหากราคาคริปโทดิ่งแรงเกินไป บริษัทเหล่านี้อาจล้มเป็นโดมิโนได้ ซึ่งจะสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งระบบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งล่าสุดที่ทำให้หลาย Exchange เริ่มเผชิญปัญหาสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ดร.เอ็ม มองว่า แม้ตลาดอาจฟื้นตัวได้ในระยะสั้น แต่ปีหน้ามีแนวโน้มกลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง หากโครงสร้างตลาดยังคงขาดความโปร่งใส และยังพึ่งพาอำนาจทุนของรายใหญ่เช่นเดิม ซึ่งจะยิ่งทำให้ความเสี่ยงเชิงระบบเพิ่มขึ้น และบั่นทอนโอกาสที่คริปโตจะเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
รายงานและเรียบเรียง : สหรัฐ ฉัตราพงษ์
