
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่ามี 42 บริษัท ถูกนำหุ้นวางเป็นประกัน (วางมาร์จิ้น) คิดเป็นสัดส่วนต่อจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทมากกว่า 10% ประกอบด้วย
42 บจ. ถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้นสัดส่วนสูง | ||||
ชื่อย่อหุ้น | จำนวน (ลห.) | %หุ้นวางมาร์จิ้น/หุ้นจำหน่ายทั้งหมด | ราคาปิดล่าสุด (บ.)[%chg YTD] | ผถห.รายย่อย (ราย)[วันปิดสมุด] |
SAAM | 109.41 | 34.52 | 5.40 | 1,102 |
A5 | 371.30 | 30.70 | 1.84 | 1,836 |
TAKUNI | 162.10 | 20.26 | 0.35 | 6,787 |
TAPAC | 82.78 | 20.10 | 0.52 | 3,219 |
ACE | 2007.81 | 19.73 | 1.30 | 17,587 |
APCS | 125.78 | 19.06 | 1.55 | 1,046 |
LPN | 269.90 | 18.56 | 1.59 | 20,753 |
SFLEX | 150.59 | 18.36 | 2.88 | 5,570 |
EP | 163.68 | 17.55 | 1.20 | 3,836 |
NNCL | 352.40 | 17.21 | 1.48 | 2,947 |
SAMART | 172.83 | 17.17 | 5.50 | 7,719 |
DITTO | 114.18 | 16.46 | 11.20 | 8,195 |
TPCH | 65.26 | 16.27 | 1.43 | 4,783 |
KCE | 184.08 | 15.57 | 21.60 | 34,454 |
MVP | 52.06 | 15.44 | 0.28 | 4,316 |
STPI | 272.42 | 15.04 | 3.92 | 8,399 |
PDJ | 88.37 | 14.90 | 1.21 | 3,471 |
III | 119.52 | 14.80 | 4.26 | 6,305 |
SUSCO | 144.95 | 14.50 | 2.16 | 10,725 |
SA | 173.71 | 14.49 | 7.15 | 1,704 |
AQUA | 822.74 | 14.40 | 0.16 | 6,331 |
MK | 199.05 | 13.98 | 0.60 | 3,111 |
IRCP | 85.02 | 13.64 | 0.29 | 6,581 |
BR | 121.10 | 13.26 | 1.64 | 4,214 |
TFG | 761.41 | 13.08 | 4.64 | 9,958 |
IMH | 30.40 | 12.83 | 3.38 | 2,815 |
NETBAY | 24.87 | 12.44 | 20.00 | 4,840 |
LPH | 88.56 | 12.30 | 3.64 | 4,445 |
SKY | 86.53 | 12.06 | 12.10 | 2,617 |
TEAMG | 97.61 | 11.93 | 3.08 | 7,003 |
MAJOR | 89.33 | 11.79 | 6.80 | 8,434 |
PREB | 36.33 | 11.77 | 3.58 | 3,518 |
XO | 50.12 | 11.70 | 15.20 | 6,120 |
MEDEZE | 124.10 | 11.62 | 6.40 | 6,135 |
PCE | 318.42 | 11.58 | 2.32 | 1,687 |
TVDH | 193.25 | 11.03 | 0.10 | 3,854 |
SINGER | 89.89 | 10.84 | 5.20 | 15,721 |
AMC | 50.74 | 10.57 | 1.99 | 2,257 |
ONEE | 239.47 | 10.06 | 2.18 | 11,333 |
CGD | 829.31 | 10.03 | 0.11 | 7,618 |
PRM | 250.70 | 10.03 | 6.20 | 11,583 |
JUBILE | 17.44 | 10.01 | 7.00 | 2,389 |
ที่มา : ตลท. | ||||
42 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 31 บริษัท ขณะที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ติดโผจำนวน 11 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ติดโผมากสุด จำนวน 6 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้างที่ติดโผจำนวน 4 บริษัท
บมจ.เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) เป็นบริษัทที่ล่าสุดถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้นสัดส่วนสูงสุดถึง 34.52% คิดเป็นจำนวน 109.41 ล้านหุ้น โดย SAAM มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 1,102 ราย ขณะที่ผลตอบแทนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี (YTD) ปรับตัวลง 6.90%
รองลงมา คือ บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป (A5) ที่ล่าสุดถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้นสัดส่วนสูงถึง 30.70% คิดเป็นจำนวน 371.30 ล้านหุ้น โดย A5 มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 1,836 ราย ขณะที่ผลตอบแทนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับตัวลง 34.75%
ขณะที่ อีก 2 บริษัท ที่ถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้นสัดส่วนมากกว่า 20% ประกอบด้วย บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) ที่ล่าสุดถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้นสัดส่วนสูงถึง 20.26% คิดเป็นจำนวน 162.10 ล้านหุ้น โดย TAKUNI มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 6,787 ราย ขณะที่ผลตอบแทนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับตัวลง 35.19%
ด้าน บมจ.ทาพาโก้ (TAPAC) ล่าสุดถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้นสัดส่วนสูงถึง 20.10% คิดเป็นจำนวน 82.78 ล้านหุ้น โดย TAPAC มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 3,219 ราย ขณะที่ผลตอบแทนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีไม่เปลี่ยนปลง
ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจผลตอบแทนราคาหุ้น YTD ของทั้ง 42 บริษัทดังกล่าว พบว่าปรับตัวลงเฉลี่ย 24.65% โดยมีหุ้นถึง 35 บริษัทที่ราคาหุ้นช่วงดังกล่าวเคลื่อนไหวทาง"ลบ" ซึ่ง บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง (TPCH) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นช่วงดังกล่าวปรับตัวลงมากสุด 70.58%
ยังมีอีก 7 บริษัท ที่ผลตอบแทนราคาหุ้น YTD ปรับตัวลงมากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) ที่ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 66.67%, บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 60.78%, บมจ.เอ็ม วิชั่น (MVP) ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 56.25%
ฟาก บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 54.34%, บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 53.74%, บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 50% และ บมจ.ทีวีดี โฮลดิ้งส์ (TVDH) ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 50%
นอกจากนี้ มีอีก 7 บริษัท มีผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นมากกว่า 10,000 ราย ประกอบด้วย บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ที่มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 34,454 ราย, บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 20,753 ราย, บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 17,587 ราย
ด้าน บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 15,721 ราย, บมจ.พริมา มารีน (PRM) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 11,583 ราย, บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 11,333 ราย และ บมจ.ซัสโก้ (SUSCO) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 10,725 ราย
"กรรณ์ หทัยศรัทธา" นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับหุ้นที่มีการวางค้ำประกันในจำนวนสัดส่วนสูง ๆ แน่นอนเมื่อเวลาเกิดผลกระทบเชิงลบจะส่งผลต่อราคาหุ้นรุนแรง
ดังนั้น จึงแนะนำนักลงทุนต้องพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นเสียก่อนว่า หุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หรือไม่ ? ถ้าเป็นหุ้นประเภทดังกล่าว ความน่าสนใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศจะมีน้อยในระยะถัดไป รวมทั้ง ข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรกของบริษัท ต้องพิจารณาว่า มีนักลงทุนสถาบันถือหุ้นอยู่ด้วยหรือไม่ ?
ถ้าปรากฎว่าไม่มีเลย มีแต่เป็นชื่อคนเท่านั้นที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นประเภทดังกล่าวออกไปก่อน แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงมาลึกแค่ไหนก็ตาม ประเมินว่า ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะข้างหน้า
ด้าน "ณัฐพล คำถาเครือ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เสริมว่า สำหรับหุ้นที่ถูกวางมาร์จิ้นไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่าจะเป็นหุ้นที่อันตรายเสมอไป โดยการวางมาร์จิ้นถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการลงทุนอีกหนึ่งอย่างเท่านั้นเอง
ทั้งนี้การลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนไม่ควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่ถูกวางมาร์จิ้นเสมอไป เพราะปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ปัจจัยพื้นฐานดีถูกนำหุ้นวางมาร์จิ้น ถ้าโฟกัสประเด็นดังกล่าวเป็นหลัก อาจจะพลาดโอกาสในการลงทุนหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีได้เหมือนกัน เนื่องด้วยการลงทุนยังต้องโฟกัสที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ส่วนบัญชีมาร์จิ้นเป็นความเสี่ยงระยะสั้นที่อาจเข้ามากระทบต่อราคาหุ้นในช่วงสั้นได้ ดังนั้น นักลงทุนต้องทำการบ้านดี ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนด้วย