
ช่วงนี้การเมืองในประเทศ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังมีข่าวฝ่ายค้านเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และหากไปถึงจุดนั้นจริงๆ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีก็ประกาศว่าพร้อมจะยุบสภาทันที ในวันเปิดสภา 12 ธ.ค. ที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 69 ตามไทม์ไลน์ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
เรียกว่าพร้อมยุบทันควัน และนั่นก็อาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่ MOA ที่พรรคภูมิใจไทย ทำไว้กับพรคคประชาชน เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นช่วงนี้จึงต้องบอกว่าการเมืองบ้านเราเริ่มกลับมามีประเด็นให้ต้องลุ้นกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าการยุบสภาจะช้าหรือเร็ว ก็ต้องยุบอยู่ดี อาจไม่ใช่เรื่องน่าจับตามองเท่ากับการเตรียมตัวรับศึกเลือกตั้งของพรรคการเมือ'มากกว่า โดยเฉพาะหลังจากภูมิไจไทย ออกตัวแรงด้วยการประกาศเปิดตัวแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เพิ่มอีก 2 คน คือ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ กับ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เรียกว่าดึงเอาคนนอกที่น่าเชื่อถือ ผลงานดี มาซื้อใจประชาชนสำหรับการเลือกตั้งในปีหน้ากันเลยทีเดียว ในขณะที่ พรรคการเมืองคู่แข่ง อย่างเพื่อไทย และพรรคประชาชน ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
เพราะฉะนั้นจากนี้ไป น่าจะถึงเวลานับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วก็ไม่ผิดนัก หากรัฐบาลประกาศยุบสภาตามเวลาที่กำหนดคือ สิ้นเดือน ม.ค. ก็คาดว่าจะเลือกตั้งได้ในเดือนเม.ย. 2569 เท่ากับมีเวลาประมาณ 4 เดือนก่อนเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งช่วงดีเดย์จากนี้ในมุมของการลงทุนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสถิติย้อนหลังช่วงก่อนประกาศยุบ 3-4 เดือน ตลาดหุ้นมักจะปรับตัว
โดย บล.เอเซียพลัส ระบุว่าในอดีตบ่งชี้ว่าก่อนจะเกิดการยุบสภา 4 เดือน ในช่วงของ 4 ยุครัฐบาล ได้แก่ นายกฯ ทักษิณ(2006) นายกฯ อภิสิทธ์(2011) นายกฯยิ่งลักษณ์(2013) นายกฯ ประยุทธ์(2023) SET INDEX มักปรับขึ้นเฉลี่ย 6.5%
และหวังว่าการจะยุบสภาในครั้งนี้ SET น่าจะทยอยปรับขึ้นต่อได้ดี(ผลตอบแทน QTD -0.16%) ส่วนผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้น รายตัวที่ปรับขึ้นได้ดีกว่า SET ในอดีตคือ BH +49% CPN +41% CENTEL +38% BDMS +30% MINT +23% KTB +19% AOT +19% AMATA +19%
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนที่ ASPS แนะนำในช่วงนี้ คือเน้นหุ้นที่สถิติในอดีตบ่งชี้ว่าปรับตัวขึ้นได้ดีก่อนเกิดการยุบสภา และราคาหุ้นปัจจุบันยัง อยู่โซนต่ำ (%QTD ยังไม่ปรับขึ้นหรือติดลบมากนัก) อาทิ CPN CENTEL BDMS MINT AOT AMATA ERW TASCO BCH BBL LH
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น การลงทุนมีความเสี่ยง และสถิติก็อาจไม่ได้เป็นเหมือนในอดีตเสมอไป เพราะปีนี้เราต้องยอมรับปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดฯ และการลงทุนมีหลากหลายจนไม่สามารถควบคุมได้