
สยามพิวรรธน์ ที่ได้สรรค์สร้าง สยามพารากอน ชื่อนี้คือ แลนด์มาร์คระดับโลกที่ครองใจนักท่องเที่ยวเสมอมา และในวาระครบรอบสองทศวรรษของทาง สยามพารากอน ได้รังสรรค์ World-Class Attraction ใหม่อย่าง ‘NEXTOPIA’ เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต เพื่อปฏิวัติวงการรีเทลด้วยต้นแบบนวัตกรรมที่ยั่งยืน บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ชั้น 5 และ 5A ด้วยการลงทุนกว่า 850 ล้านบาท จนเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้

สำหรับโปรเจกต์ NEXTOPIA นี้ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดแบบ Revolutionary Concept เพื่อให้เป็น World-Class Attraction แห่งใหม่ บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 15,000 ตารางเมตร ครอบคลุมบริเวณชั้น 5 และ 5A ทั้งหมด ด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงกว่า 850 ล้านบาท โดยเป้าหมายสำคัญคือการเปลี่ยนพื้นที่ศูนย์การค้าให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่รวมพลังทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
สิ่งที่ทำให้ NEXTOPIA แตกต่างและโดดเด่น คือ โมเดลการทำงานแบบ Co-creation ที่ไม่ได้ทำเพียงลำพัง แต่เกิดจากการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศ (Ecosystem) ระดับโลก ประกอบด้วยองค์กรนวัตกรรม พันธมิตร และคู่ค้ากว่า 50 องค์กร รวมถึงเครือข่ายคอมมูนิตี้ Friends of NEXTOPIA อีกกว่า 30 กลุ่ม ที่มาร่วมขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์เดียวกันคือ “Co-creating Communities for a Better World”
นอกจากนี้ NEXTOPIA ยังทำหน้าที่เป็น Game Changer ที่สำคัญของสยามพิวรรธน์ ในการพิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย โดยพื้นที่แห่งนี้เปิดกว้างต้อนรับทุกคนให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งผ่านแนวคิด “Join us in the Making of a Better World” เพื่อร่วมกันสร้างคุณค่าและเติมเต็มความสุขในทุกมิติของการใช้ชีวิต
โดยทุกย่างก้าวใน NEXTOPIA คือ การออกแบบประสบการณ์ใหม่ที่ยกระดับวิถีชีวิต ทั้งจากสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมรักษ์โลกที่มีตลอด 365 วัน รวมถึงร้านค้าและร้านอาหารที่ยึดมั่นในความยั่งยืน เพื่อส่งต่อโลกที่ดีกว่าและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับทุกคนที่มาเยือน

เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของโปรเจกต์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการวางรากฐานที่แข็งแกร่งผ่านสิ่งที่เรียกว่า “NEXTOPIA Model” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มต้นแบบที่ใช้แนวคิด Co-creation เข้ามาขับเคลื่อน โดยเน้นการผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ตรงกัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในรูปแบบ Experimental Engagement ที่มอบทั้งความสนุกและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกไปพร้อมๆ กัน
3 องค์ประกอบหลัก สู่เมืองต้นแบบแห่งอนาคต
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น โครงสร้างของ NEXTOPIA ขับเคลื่อนด้วย 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่
จากนโยบายสู่การปฏิบัติจริง
NEXTOPIA ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้คำว่า Sustainability จับต้องได้จริงในพื้นที่ถาวร ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของสยามพิวรรธน์ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งการบริหารและกิจกรรมเพื่อสังคม
โดยหนึ่งในหลักฐานความสำเร็จที่ชัดเจนที่สุด เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2568 เมื่อสยามพารากอนได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง ในโครงการ Utility Green Tariff (UGT1) ซึ่งเป็นบริการไฟฟ้าสีเขียวที่มีใบรับรอง Renewable Energy Certificate (REC) การขยับตัวครั้งนี้ ส่งผลให้สยามพารากอนก้าวขึ้นเป็นกลุ่มศูนย์การค้าแห่งแรกของประเทศ ที่มีการใช้พลังงานหมุนเวียนมากกว่า 30% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในอาคาร
นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีที่ตอกย้ำความตั้งใจจริง คือ การที่ NEXTOPIA ได้รับการรับรองมาตรฐาน Fitwel Certification ระดับ 2 ดาว อย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็น Multi-Tenant Retail Building โครงการแรกของประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐานนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในสุขภาวะ ความเป็นอยู่ที่ดี และความมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับทุกคนที่มาเยือน

เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ NEXTOPIA ไม่ได้เกิดจากเงินลงทุนมหาศาลเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากพลังของ “ความร่วมมือ” หรือ Co-creation ที่เรียกได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เพราะนี่คือ การรวมตัวกันขององค์กรชั้นนำระดับโลกที่มีวิสัยทัศน์ตรงกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติ ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ “Co-creating Communities for a Better World”
จากเวทีไทยสู่ความร่วมมือระดับสหประชาชาติ
สิ่งที่น่าจับตามอง คือ การที่สยามพารากอน และ NEXTOPIA ได้ยกระดับความร่วมมือไปไกลกว่าภาคธุรกิจ โดยจับมือกับองค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น UN Global Compact Network Thailand, UN World Food Programme, UNDP BIOFIN, UNICEF และ WWF ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า โปรเจกต์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องภายในประเทศ แต่เป็นภาพความร่วมมือระดับโลกที่จะเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย พร้อมเปิดรับการมีส่วนร่วมจากนานาชาติ
ทัพหน้าภาคธุรกิจ 50 องค์กรผู้นำร่วมขับเคลื่อน
ในส่วนของภาคเอกชน NEXTOPIA ได้รับเกียรติจากองค์กรพันธมิตรชั้นนำกว่า 50 องค์กร จากหลากหลายอุตสาหกรรม ที่เข้ามาร่วมก่อตั้งและสานต่อพันธกิจสร้างโลกที่ดีขึ้น นำทัพโดยยักษ์ใหญ่ที่เราคุ้นชื่อกันดีอย่าง B.Grimm, SCG Decor (COTTO), Indorama Ventures, ธนาคารกสิกรไทย (KASIKORNBANK) และ SCG (The Siam Cement Public Company Limited)
รวมพลังข้ามอุตสาหกรรม เพื่อระบบนิเวศที่สมบูรณ์
ยิ่งไปกว่านั้น การผนึกกำลังครั้งนี้ยังครอบคลุมไปถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแขนงต่างๆ มากมาย อาทิ
ผู้อยู่เบื้องหลังการดีไซน์เมืองแห่งอนาคต
ความสำเร็จเหล่านี้จะขาดหัวเรือใหญ่ไปไม่ได้ โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมี รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ในฐานะ Chief Sustainability Advisor เข้ามาเป็นผู้ Co-create คนสำคัญ โดยทำงานร่วมกับ NEXTOPIA Team ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารคนรุ่นใหม่ของสยามพิวรรธน์ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์และขับเคลื่อนให้เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคตแห่งนี้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อเดินเข้ามาใน NEXTOPIA สิ่งที่จะสะกดสายตาของคุณเป็นอย่างแรก คือ The Globe at NEXTOPIA ลูกโลกดิจิทัลขนาดยักษ์ที่ลอยเด่นอยู่ใจกลางพื้นที่ ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการสะท้อนโลกยั่งยืนและเทรนด์ระดับโลก โดยผลงานชิ้นเอกนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง NEXTOPIA และ PlanB Media เพื่อสร้างโลกทั้งใบไว้ใจกลางกรุงเทพฯ
เช็คชีพจรโลกแบบ Real-time ผ่าน The Globe
ความพิเศษของ The Globe ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ความสวยงาม แต่ทำหน้าที่เป็น Eco Impact Dashboard ที่รายงานข้อมูลสำคัญให้เรารู้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศและเหตุการณ์ธรรมชาติ ซึ่งได้รับข้อมูลตรงจาก GISTDA และ NASA
นอกจากนี้ ยังแสดงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใน 4 มิติสำคัญ ได้แก่ การใช้พลังงาน การใช้น้ำ การจัดการขยะ และที่เจ๋งสุดๆ คือ การแสดงดัชนีพลังงานที่ทุกคนช่วยกันผลิตจากการเดินบน The Kinetic Floor ให้เห็นกันสดๆ บนลูกโลกนี้ด้วย
สนุกกับกิจกรรมรักษ์โลกที่ “ทำได้จริง”
ถัดจากความตื่นตาตื่นใจของเทคโนโลยี NEXTOPIA ยังออกแบบพื้นที่ภายใต้แนวคิด Experimental Engagement เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับวิถี Sustainability ได้อย่างสนุกสนาน โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ อาทิ:
เชื่อมต่อโลกออนไลน์และออฟไลน์เป็นหนึ่งเดียว
เพื่อให้การมีส่วนร่วมไร้รอยต่อ คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน NEXTOPIA World บน ONESIAM SuperApp ซึ่งจะเป็นช่องทางในการรับข้อมูลข่าวสาร ติดตามกิจกรรม และสะสม Green Points เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์มากมายจากการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลก
พื้นที่ปล่อยของและพลังจากคอมมูนิตี้
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของที่นี่ คือ การเปิดพื้นที่ Community Room ให้เป็น Co-working Space ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ทุกคนสามารถเข้ามานั่งทำงาน หาแรงบันดาลใจ หรือร่วมกิจกรรมดีๆ อย่าง ECO-workshops และฟัง Talks จากวิทยากรชั้นนำได้ตลอด 365 วัน
โดยกิจกรรมเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลากหลายวงการที่มาร่วมกันขับเคลื่อนแนวคิด Global Awareness โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรคอมมูนิตี้ ผู้นำความคิด และสื่อมวลชนหลากหลาย อาทิ AUTISTIC THAI FOUNDATION, CANNS, CHALUPAS, DOTS COFFEE, FYI MARKET, IWELTY.CLUB, LOCAL ALIKE, LOOPERS, Microsoft, MIRREN, PATOM ORGANIC LIVING, PEACHES ACTIVE, PRECIOUS PLASTIC, SOAP OPERA, SOI DOG FOUNDATION, SOUL GLOW WITH MAI, SOUL 4 STREET, THAILAND GASTRONOMY NETWORK, THE PAWSE CLUB, TOCA, UNITY.BANGKOK, USEMEREPEAT, VTOPIA, WAMP.CO,WORLD FOOD PROGRAM, WWF, YAMAHA, YPS PILATES, ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน CBIS, สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย, สมาคมธุรกิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, CNN, ENVIRONMAN และอีกมากมายที่จะเข้ามาร่วมทำกิจกรรม For the Greater Good ร่วมกัน
รวมพลคนดังหัวใจสีเขียว Friends of NEXTOPIA
NEXTOPIA ยังได้รับพลังสนับสนุนจากเหล่าผู้นำความคิดและคนดังจากหลากหลายสาขาอาชีพ ในนาม Friends of NEXTOPIA ที่จะแวะเวียนมาถ่ายทอดประสบการณ์และจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ นำทีมโดยตัวแม่สายกรีนอย่าง เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ (Little Big Green), เขื่อน-ภัทรดนัย, แพรี่พาย-อมตา จิตตะเสนีย์, ลุงรีย์ (Uncle Ree), หมอเน๋ง-นพ.ศรัณย์ และอีกหลายท่านที่จะมาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจให้การรักษ์โลกเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน

นอกจากนวัตกรรมล้ำสมัยและกิจกรรมน่าสนใจแล้ว อีกหนึ่งมิติที่ขาดไม่ได้ของ NEXTOPIA คือ การเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่รวบรวมผู้ประกอบการหัวใจสีเขียวไว้ด้วยกัน ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งซื้อขายสินค้า แต่เป็นพื้นที่ที่ผู้ประกอบการมารวมพลังกันสร้างธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อชุมชน สังคมและประเทศ โดยเน้นการค้าขายอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน
ช้อปอย่างฉลาด เลือกสิ่งที่ใช่เพื่อโลก
สินค้าและบริการทั้งหมดในโซนนี้ ถูกนำเสนอภายใต้แนวคิด “Co-creating Communities for a Better World” ซึ่งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ฉลาดเลือกและฉลาดซื้อ โดยสินค้าแต่ละชิ้นไม่เพียงแต่มีดีไซน์ที่สร้างสรรค์ แต่ยังต้องดีต่อผู้ใช้และดีต่อโลกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น NEXTOPIA ยังผสานแนวคิดสำคัญ 3 ประการเข้าด้วยกัน คือ Sustainability, Equality และ Inclusivity เพื่อเปิดกว้างให้ผู้คนที่มีความแตกต่างหลากหลายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอสินค้า แสดงศักยภาพ และทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็น Life Transformation ที่จะเปลี่ยนทุกการมาเยือนให้กลายเป็นความภาคภูมิใจ ที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกและสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น
ECOTOPIA การันตีความเจ๋งด้วยรางวัลระดับเอเชีย
เมื่อพูดถึงสินค้ารักษ์โลก ต้องยกให้ ECOTOPIA เป็นผู้นำทัพสำคัญ โดยที่นี่เปรียบเสมือนเมืองแห่งคนรักษ์โลกที่ยึดมั่นในความเชื่อที่ว่า “เราสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ด้วยกัน” ภายในรวบรวมสินค้าและนวัตกรรมยั่งยืนจากผู้ประกอบการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ระดับ SMEs ทั่วประเทศ ไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก ครอบคลุม 8 หมวดหมู่สำคัญ ได้แก่ Upcycled, Zero-Waste, Hygienic, Beautiful, Stylish, Kids, Green และ Wellness
ความโดดเด่นของ ECOTOPIA ได้รับการยอมรับในระดับสากล จนติดอันดับ Asia’s 20 Coolest Retailers หรือหนึ่งใน 20 ร้านค้าปลีกที่เยี่ยมยอดที่สุดในเอเชีย จาก Inside Retail สื่อธุรกิจรีเทลชั้นนำ ซึ่งคัดเลือกเฉพาะแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ แตกต่าง และสร้างแรงบันดาลใจจากทั่วภูมิภาค
รวมทัพแบรนด์ดังและพื้นที่สำหรับคนรักสัตว์
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ชั้นนำตบเท้าเข้าร่วมในเมืองต้นแบบแห่งนี้อีกมากมาย อาทิ แบรนด์ดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์, Chan, MIIR, Sedar.W, Somuti, Sudtana รวมถึง Shima Park แห่งแรกในประเทศไทย
และปิดท้ายด้วยข่าวดีสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง NEXTOPIA เป็นพื้นที่แบบ Pet Welcome ที่พร้อมเปิดโลกใหม่ให้คุณและเพื่อนซี้สี่ขา โดยมีไฮไลท์คือ Club Pawrents by Arak ที่คัดสรรสินค้าคุณภาพและให้บริการดูแลโดยทีมสัตวแพทย์มืออาชีพจากโรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ ซึ่งจะเปิดบริการเต็มรูปแบบในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 อีกทั้งยังมีโซน Pawtopia ดินแดนแห่งความสุขที่รวบรวมสินค้าน่ารักๆ ให้เลือกช้อปกันอย่างจุใจอีกด้วย

ความพิเศษของ NEXTOPIA ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องช้อปปิ้งหรือนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องปากท้องที่ถูกยกระดับให้เป็นมาตรฐานใหม่ของวงการอาหาร โดยที่นี่ได้คัดสรรร้านอาหารและคาเฟ่ที่ขับเคลื่อนด้วยหัวใจแห่งความยั่งยืนมาไว้ในที่เดียว ทุกแบรนด์ที่มาเปิดล้วนมีพันธกิจร่วมกันในการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อโลก มุ่งสู่เป้าหมายสำคัญ คือ การลดขยะฝังกลบให้เป็นศูนย์ หรือ Zero Waste to Landfill พร้อมทั้งมีการจัดการขยะและ Food Waste อย่างถูกต้อง
เสิร์ฟความอร่อยที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ในส่วนของเบื้องหลังครัว ทางโครงการเลือกใช้พลังงานปลอดภัยจาก WP Energy และเน้นการรังสรรค์เมนูสุขภาพจากวัตถุดิบสดใหม่ที่สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น เพื่อให้ทุกจานที่เสิร์ฟไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่ยังผสานหัวใจแห่งความยั่งยืนลงไปด้วย
สำหรับไฮไลท์ที่สายกินต้องร้องว้าว คือ การปรากฏตัวของร้านดังระดับโลกที่มาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่นี่ อาทิ Gordon Ramsay Street Burger ร้านเบอร์เกอร์สุดฮิต และ L’antica Pizzeria Da Michele ตำนานพิซซ่าชื่อดัง
นอกจากนี้ ยังมีกองทัพร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น %Arabica, Dean & Deluca, Gong Cha, Kyo Roll En, Shabu Baru, ไก่ย่างเสือใหญ่ รวมถึงร้านเก๋ๆ อย่าง Henry fry, A Keen House, City fresh, Crafter by Hobs, Distar Fresh, Fallabella, Fatbro, FIKKA, Gelateria Kitokki, GROW by getfresh, Hopsy. Story, Nicolo, Piche, Shersanctuary Teabar, Small Table, Ta Lay Jai, เตี๋ยวคอปเปอร์ คราฟท์ และ สรรพรส
ที่น่าประทับใจ คือ ร้าน Dots Coffee ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่เปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสายตาได้ทำหน้าที่เป็นพนักงาน และ SC All-Day Morning Café ที่พร้อมมอบประสบการณ์อาหารเช้าให้คุณทานได้ตลอดทั้งวัน
จากมื้ออร่อยสู่ EATELIER แหล่งแฮงค์เอาท์สุดชิค
เมื่ออิ่มท้องแล้ว หากเดินลงมาตามบันได The Spiral ที่เชื่อมต่อไปยังชั้น 4 คุณจะพบกับโซน “EATELIER” ซึ่งถูกนิยามให้เป็น Dining Entertainment รูปแบบใหม่ ที่นี่คือ การปฏิวัติประสบการณ์การกินดื่มให้กลายเป็น “Eat–Drink–Chill Hub” ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ภายใต้แนวคิด “Curation & Co-Creation” พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนแพลตฟอร์มที่รวมพลังของเหล่าเชฟระดับดาวมิชลิน ศิลปิน นักแสดง และไอคอนวงการบันเทิงทั้งไทยและเทศ มาร่วมกันรังสรรค์รสชาติแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวาด้วยเสียงดนตรีจาก Live Bands & DJs ที่จะทำให้ช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณสนุกได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

การเปิดตัว NEXTOPIA ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มโซนใหม่ แต่คือก้าวสำคัญสู่ทศวรรษใหม่ของสยามพารากอน ที่เข้ามาเติมเต็มการรีโนเวทครั้งใหญ่ที่สุดในโอกาสเปิดดำเนินการครบรอบ 20 ปี ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เปิดตัว MELAND สวนสนุกในร่มสุดล้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้เหนือชั้นไปอีกขั้น สยามพารากอนได้เปิดตัว World-Class Attractions แห่งใหม่ที่จะมาสร้างสีสัน ได้แก่ MELAND สวนสนุกในร่มสุดล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งปักหมุดเปิดเป็นแฟลกชิปโกลบอลแลนด์มาร์คนอกประเทศจีนแห่งแรกในไทย ณ บริเวณชั้น 5 โดยจะทำงานสอดประสานกับ “EATELIER” Dining Entertainment ที่เป็นจุดแฮงค์เอาท์ใหม่ล่าสุดใจกลางสยาม บริเวณชั้น 4
หมุดหมายระดับโลกที่ครองใจนักเดินทาง
ท้ายที่สุดแล้ว NEXTOPIA ในฐานะเมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต จะทำหน้าที่เป็นจุดหมายระดับโลกที่มอบคุณค่าให้กับทุกการมาเยือน ทั้งต่อตัวเราเอง สังคม และโลกใบนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นแม่เหล็กทรงพลังที่ช่วยดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์จริง
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า สยามพารากอน ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายและสร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอกย้ำบทบาทการเป็น Revolutionary Retail Development หรือผู้ปฏิวัติวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกระดับโลกอย่างแท้จริง พร้อมรักษาตำแหน่งโกลบอลเดสติเนชั่นที่เป็นที่หนึ่งในใจของทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก…