
ในวันที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกถูกตั้งคำถามเรื่อง “การปล่อยคาร์บอนมหาศาลบนโลก” ขยะจากการผลิตและการใช้งานบนเครื่องบิน ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเบาะ ผ้าห่ม ยูนิฟอร์ม เข็มขัดนิรภัย ถาดอาหาร ไปจนถึงรถคาร์ทบนเครื่องบิน ล้วนเป็นวัสดุที่ต้องปลดระวางตามรอบอายุการใช้งาน และกลายเป็นขยะกว่าหลายหมื่นชิ้นต่อปี
หากไม่มีระบบจัดการที่ดี ขยะเหล่านี้จะถูกเผา ฝังกลบ หรือถูกทิ้งโดยสูญเสียทรัพยากรที่ยังมีมูลค่าอยู่เต็มเปี่ยม นี่คือ “เพนพอยท์สำคัญ” ของอุตสาหกรรมการบิน วัสดุที่ยังมีศักยภาพกลับกลายเป็นของเสีย และเป็นต้นทางของการปล่อยมลพิษโดยไม่จำเป็น
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI จึงร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดกิจกรรม “TG UPCYCLING DESIGN CAMP 2025: From Cart to Creation” ปลูกฝังแนวคิด Circular Economy ใช้ในการออกแบบ “รถคาร์ทปลดระวาง” หลังเคยวิ่งรับใช้ผู้โดยสารบนท้องฟ้า กลับมาต่อยอดเป็นงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้จริง
โครงการนี้ไม่เพียงลดขยะจากอุตสาหกรรมการบิน แต่ยังผลักดันให้แนวคิดการลดขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste Living) ถ่ายทอดให้กับผู้เข้าแข่งขัน เพื่อพิสูจน์ว่าทรัพยากรทุกชิ้นแม้จะผ่านการใช้งานมาแล้ว ยังสร้างคุณค่าใหม่ได้เสมอเมื่อเรามองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่
คุณชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวคิดที่การบินไทยองค์กรที่มีอายุกว่า 65 ปี ที่ยั่งยืนอยู่กับโลกใบนี้ จะต้องเป็นผู้นำสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โครงการ “TG UPCYCLING DESIGN CAMP 2025: From Cart to Creation” ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและการออกแบบอย่างยั่งยืน ที่จะเป็นทางออกให้โลก ในการใช้วัสดุอย่างมีความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ การบินไทยเป็นองค์กรที่มีวัสดุเหลือใช้เก็บไว้จำนวนมากนับกว่า 10,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น รถคาร์ท เบาะนั่ง ยูนิฟอร์ม และชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งเป็นทั้งความท้าทาย เพราะเป็นภาระในการจัดการที่เคยต้องทิ้ง กลับมาชุบชีวิตใหม่ให้มีคุณค่า สร้างโอกาสให้กับสังคม
“วัสดุที่มีเก็บไว้กับการบินไทยแทบจะไม่มีค่า อาจเป็นภาระต่อการจัดการทิ้งเสียด้วยซ้ำ กลับมาเพิ่มคุณค่าใหม่ ทั้งต่อการบินไทยและต่อสังคม นี่ไม่ใช่เพียงแค่การนำไอเดียของผู้ชนะไปต่อยอดเท่านั้น แต่ทุกไอเดีย แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้รับรางวัล ก็สามารถนำไปต่อยอดได้เช่นเดียวกัน เพราะนี่คือความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เราสามารถพัฒนาสู่ความยั่งยืน ที่จะเปลี่ยนจาก waste ให้กลายเป็น wealth ให้ประสบความสำเร็จ”
การพัฒนาเวทีการประกวดจึงถือว่าเป็นการสร้างเครือข่ายเป้าหมายร่วมกัน เบื้องหลังการประกวดผลงานสร้างสรรค์ จะนำไปสู่การ “สร้างอนาคตของธุรกิจและโลกใบนี้ ที่มาจากการออกแบบใหม่ได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่”
คุณทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการ ต้องการสื่อสารถึงความมุ่งมั่นของการบินไทยต่อความยั่งยืนเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG) ในการร่วมมือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างแรงบันดาลใจ คุณค่า และผลลัพธ์ โอกาสให้กับทุกภาคส่วนในสังคมพร้อมกันกับการบริหารจัดการองค์กรอย่างยั่งยืน

“ทุกครั้งที่เรานำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ให้มีคุณค่า สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง อุปกรณ์การบริการในเครื่องบิน ที่ถูกมองว่าไร้ค่า เป็นภาระต่อองค์กร หรือแม้แต่เป็นเพียงเศษวัสดุที่หมดอายุการใช้งาน จะถูกตีความใหม่อย่างมีจินตนาการ และถูกแปรรูปให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผ่านเยาวชนไทยรุ่นใหม่ เป็นการนำทรัพยากรกลับมาใช้ไม่สิ้นสุดลง แม้หมดการใช้งาน”
การสร้างความร่วมมือในการจัดการประกวด เป็นแนวคิดที่สำคัญที่ต้องการส่งต่อไปยังประชาชนและคนทั่วไปทุกภาคส่วน ผ่านตัวแทนนักออกแบบรุ่นใหม่ ช่วยสร้างการตระหนักรู้ (Awareness) และสร้างความร่วมมือ (Engagement) ให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของเศรษฐกิจหมุนเวียน ให้เข้าใจว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงคำสวยงาม แต่คือวิธีคิดและวิธีลงมือทำ”
จากข้อมูลปัจจุบัน การบินไทยมีวัสดุที่สามารถนำมาออกแบบใหม่ได้มากกว่า 10,000 ชิ้น ที่ยังมีโอกาสมากมายที่ความคิดดีๆ วันนี้ จะขยายผลเป็นธุรกิจ สินค้า หรือบริการที่ใช้งานได้จริง ช่วยลดของเสีย เพิ่มคุณค่า และสร้างผลประโยชน์กลับสู่องค์กรและสังคมในระยะยาว
1. From Waste to Wealth – เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้เป็นมูลค่าใหม่
2. From Pain to Planet – ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดหมุนเวียน
3. People Participation – เปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคต
แม้หลายคนอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน แต่ “วัสดุเหลือใช้ของการบินไทย” คือขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในคลังขององค์กรมายาวนาน วัสดุกว่า 10,000 ชิ้น ทั้งที่เคยเป็นข่าวและที่ไม่เคยถูกพูดถึงเลย ต่างเป็นโอกาสสำคัญที่จะเปลี่ยนของปลดระวางให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่กำลังเป็นมาตรฐานของธุรกิจสมัยใหม่
เมื่อนำมาผ่านดีไซน์ใหม่ก็กลายเป็นกระเป๋าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งได้อย่างมีสไตล์
สามารถแปลงโฉมเป็นกระเป๋าใส่ของ ผ้ากันเปื้อน หรือของชำร่วยสำหรับกิจกรรม CSR ได้อย่างลงตัว
วัสดุเหล่านี้สามารถต่ออายุได้อีกไกล ทั้งการผลิตเป็นของใช้ในโรงแรม ชุดเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการส่งต่อให้ชุมชนและโรงพยาบาลหลังผ่านกระบวนการทำความสะอาดอย่างเข้มงวด
ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นอุปกรณ์ปฏิบัติงาน สามารถถูกรีดีไซน์เป็นตู้เก็บของ มินิบาร์ หรือเฟอร์นิเจอร์ล้อเลื่อนในบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กลายเป็นของใช้ในบ้าน ของเล่นเด็ก หรืออุปกรณ์สำหรับโรงเรียนได้อีกหลากหลายรูปแบบ
ยังสามารถเติมความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์แนวอุตสาหกรรม ของสะสม งานศิลปะ หรือของตกแต่งสำนักงานที่มีเรื่องราวเฉพาะตัว เช่นใบพัดหรือชิ้นส่วนโลหะดั้งเดิมที่กลายเป็นประติมากรรมทรงพลัง
ยังถูกแปลงเป็นแฟชั่นไอเท็ม สายกล้อง หรืออุปกรณ์กีฬาที่ทนทานเกินคาด
ที่ผ่านการใช้งานยาวนาน ก็สามารถนำกลับไปซ่อม ใช้ใหม่ หรือสร้างเป็นเฟอร์นิเจอร์สนามที่คงทนสำหรับชุมชนและสนามบินได้เช่นกัน
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด จะเห็นว่าวัสดุเหลือใช้จากการบินไทยไม่ใช่เพียง “ของเก่า” แต่เป็นแหล่งกำเนิดของโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ตั้งแต่:
ทั้งหมดนี้สะท้อนบทบาทของ Circular Economy ที่ไม่เพียงช่วยลดของเสีย แต่ยังสร้างมูลค่าใหม่ให้กับองค์กร เพิ่มรายได้ สร้างแบรนด์ให้ทันสมัย และเชื่อมโยงชุมชนกับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ “ของปลดระวาง” กลายเป็น “โอกาสระยะยาว” ทั้งต่อองค์กรและสังคมในเวลาเดียวกัน
ความเชื่อของการบินไทยที่สร้างการมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่และชุมชน ในการร่วมมือกันคิดค้นโมเดลการพัฒนาวัสดุปลดระวาง มาจากความเชื่อว่า “ความยั่งยืนจะไม่เกิดขึ้นจากเพียงองค์กรเดียวที่ลงมือทำ แต่มาจากการสานพลังความร่วมมือ คนรุ่นใหม่ ภาคธุรกิจ ชุมชน และสังคมเดินไปด้วยกัน”
“ทุกคนที่เข้าร่วมการออกแบบ ต่อให้ไม่ได้รับรางวัล แต่ผลงานจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง บางครั้ง ไอเดียที่ยังไม่ชนะบนเวที อาจชนะในโลกความจริง ขอบคุณเยาวชนทุกคนที่ไม่เพียงทำงานเพื่อชนะ แต่ทำงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนกว่าเดิม เพราะไม่ได้แค่สร้างผลงาน แต่เป็นความหวัง มุมมองใหม่ วางรากฐานทางความคิดที่สังคมต้องการ ดึงทุกภาคส่วนร่วมสร้างอนาคตที่ดีขึ้น”
ทั้งนี้ ผลลัพธ์สำคัญคือการสร้างการมีส่วนร่วมในสังคม โดยทยอยเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ จากที่ผ่านมา เคยนำผ้าคลุมเบาะเครื่องบินมาออกแบบ เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม และต่อยอดไปสู่การสร้างงานกับชุมชนต่างๆ อีกหลายกลุ่ม ทำให้เกิดความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น
ในปี 2025 มีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 10 ทีม โดยมีผลงานโดดเด่นและสวยงามทั้งในด้านการออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพการใช้งานจริง

จากการบินไทย:
ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบจากหลายหน่วยงาน:
รางวัลชนะเลิศ: มหาวิทยาลัยศิลปากร
เจ้าของผลงาน TG.01/02 และ TG.00 ซึ่งมีจุดเด่นคือการนำส่วนประกอบของรถคาร์ทที่ปลดระวางแล้ว มาผ่านกระบวนการออกแบบใหม่ (Redesign) เป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ โคมไฟตั้งพื้น และป้ายไฟ ที่สวยงามและใช้งานได้จริง

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
เจ้าของผลงาน TG Photo Booth Memory ซึ่งนำเสนอคอนเซปต์ “การบันทึกความทรงจำ” โดยออกแบบให้ติดตั้งในเลาจ์รับรอง เพื่อให้ผู้โดยสารของการบินไทยสามารถบันทึกภาพความประทับใจก่อนออกเดินทาง
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงานการออกแบบ Cheeva Exclusive Home-Based Exercise Set ชุดเก็บอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ารุ่นใหม่ มุ่งเน้นความสะดวกและการใช้งานในพื้นที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนเจตนารมณ์ของการบินไทยในการผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สู่การปฏิบัติจริง พร้อมสนับสนุนเยาวชนไทยให้ใช้พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดวัสดุที่หมดอายุการใช้งาน ให้กลับมามีชีวิตใหม่ในรูปแบบของงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ที่ทรงคุณค่า สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์และความยั่งยืนขององค์กรในเวลาเดียวกัน