MASTER ชี้ปี 69 สัญญาณฟื้น เร่งปรับกลยุทธ์โค้งสุดท้ายของปี มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ–รัดเข็มขัดต้นทุน รุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง หวังหนุนผลประกอบการปี 69 กลับมาเติบโต ขานรับดีมานด์ Medical Tourism และลูกค้าต่างชาติที่ยังขยายตัวแข็งแรง นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ผู้นำอันดับต้นของอุตสาหกรรมด้านความงามในไทยและเอเชีย ในฐานะ Regional Company เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2569 จากผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 สะท้อนภาพความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว 
ในปี 2569 บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์เชิงรุก ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการในปีหน้าฟื้นตัวจากปี 2568 ที่มีแนวโน้มทรงตัว ท่ามกลางความท้าทายในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของฐานลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรายได้จากลูกค้าต่างชาติในไตรมาส3/2568 เติบโตถึง 8.76% (YoY) สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 1,415.30 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 151.91 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ลดลง เพราะรายได้จากการศัลยกรรม และรายได้จากการดูแลหลังจากศัลยกรรมลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีการเพิ่มขึ้นจากรายได้การดูแลผิวพรรณ และรายได้จากการปลูกผมดูแลเส้นผมที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นเข้ามาช่วยสนับสนุน นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ฝ่ายจัดการได้วางกลยุทธ์ที่ชัดเจนสำหรับไตรมาส 4/2568 เพื่อรับมือกับความท้าทายและสร้างการเติบโต โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริหารจัดการต้นทุน และการรุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมศัลยกรรมและเสริมความงาม (Industry Overview) โดยอุตฯ ช่วงปี 2568–2569 อยู่ในระยะฟื้นตัว ภายใต้ภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในบริการที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน ทำให้ตลาดภายในประเทศเติบโตช้ากว่าที่ประมาณไว้ แม้ความต้องการซื้อในกลุ่มศัลยกรรมความงามยังคงมีอยู่ในระยะยาว ทั้งนี้สอดคล้องกับรายงานของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประเมินว่าตลาดในประเทศยังมีฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ แต่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในจุดอ่อนตัว อย่างไรก็ตาม ความต้องการศัลยกรรมเฉพาะทางซึ่งเป็นบริการหลักของอุตสาหกรรมยังคงมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มศัลยกรรมจมูก โครงหน้า และการผ่าตัดแก้ไขที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นมองว่าอุตสาหกรรมศัลยกรรมและเสริมความงาม ยังมีแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากความต้องการศัลยกรรมคุณภาพสูง และการกลับมาของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ แม้ว่าตลาดในประเทศจะชะลอตัว แต่โครงสร้างตลาดที่ให้ความสำคัญกับบริการเฉพาะทางและการเติบโตของตลาด Medical Tourism ยังเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยกระจายความเสี่ยง และสนับสนุนรายได้ของผู้ประกอบการในระยะต่อไป "คาดว่าความต้องการจากต่างชาติจะเป็นแรงสนับสนุนหลักในไตรมาส 4/2568 ขณะที่ฝั่งในประเทศคาดว่าจะทยอยปรับดีขึ้น ตามกำลังซื้อ และการออกโปรโมชั่นเชิงกลยุทธ์ โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน การบริหารแพทย์ และการรักษาการเติบโตของกลุ่มบริการมาร์จิ้นสูง"นางสาวลภัสรดากล่าว กลุ่มลูกค้าต่างชาติยังถือเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเคสสูงกว่าลูกค้าในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางเข้ามา เพื่อรับบริการศัลยกรรมเฉพาะทาง โดยสัดส่วนลูกค้าต่างชาติของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตแบบปีต่อปีอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ช่วยประคองรายได้ และอัตรากำไรในใตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้ MASTER ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติให้แตะระดับ 30% ของรายได้รวมในระยะกลาง ซึ่งอยู่ในทิศทางที่เป็นไปได้ตามสภาพตลาดในภูมิภาคและจุดแข็งด้านคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ 
|