TMAN คาดรายได้ปี 69 เติบโตเป็น 2 หลัก ประเมินปี 72 ยอดขายทะลุ 4,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ยาใหม่ต่อเนื่อง-ลุยขยายช่องทางขายในรพ.เพิ่ม นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN เปิดเผยในงาน Opportunity Day ในวันนี้ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีหน้า เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และคาดว่าในปี 2572 ประเมินว่ายอดขายจะทะลุ 4,000 ล้านบาท โดย CAGR อยู่ที่ 10-15% 
สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะมีปัจจัยบวก ภาคโรงพยาบาลจะมีเรื่องงบประมาณใหม่เข้ามาช่วยในเรื่องการซื้อขายผลิตภัณฑ์ยา ขณะเดียวกันรัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้ นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/2568 เป็นช่วงหน้าหนาว จะส่งผลดีต่อกลุ่มยาตามภาคฤดูกาลด้วย ขณะที่ปัจจัยลบ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด “ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในกลุ่มโรงพยาบาล เติบโต 30% เป็นอย่างน้อย ขณะที่ในปีหน้ายังคงต้องติดตาม”นายประพล กล่าว สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงยึดมั่นในการเติบโตทั้ง 5 กลยุทธ์ทั้งการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การเน้นช่องทางการเติบโตในโรงพยาบาล ช่องทาง Aesthetic การขยายตลาดในต่างประเทศ ธุรกิจใหม่ OEM โดยปัจจัยขับเคลื่อนปีนี้ ประกอบด้วย 1.การออกสินค้าใหม่ๆ โดยปีนี้ตั้งเป้าหมาย 18 ตัว โดยในช่วงไตรมาส 4/2568 จะเปิดอีก 1 ตัวเท่าไหร่ สำหรับในช่วงที่ผ่านมานั้น บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ครบตามเป้าหมายแล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบันมี 53 กลุ่มโรค ซึ่งปัจจุบันมีการโฟกัส 5 กลุ่มโรค คือ ยาปฏิชีวนะ ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ผิวหนัง และระบบกล้ามเนื้อกระดูก เป็นต้น ซึ่งบริษัทยังมีสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดด้วย เช่น ยาลดไขมัน เบาหวาน เป็นต้น รวมถึงสินค้ายังมีการกระจายในทุกช่วงอายุด้วย 2.การเติบโตของโรงพยาบาล โดยจากปัจจุบันเติบโตแล้ว 30% โดยการออก NCD ใหม่ และการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายในโรงพยาบาลในหลายๆโรงพยาบาลด้วย รวมถึงกลุ่มยา ทางเดินหายใจ กลุ่มแก้แพ้ เป็นต้น รวมถึงการเข้าถึงโรงพยาบาลให้ได้มากขึ้น 3.การเติบโตในตลาด Aesthetic โดยการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีทีมที่ดูแลในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ และการมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของลูกค้า 4.การเติบโตในต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีในจีน และฮ่องกง และมีแนวโน้มในการขยายในประเทศอื่นๆ ที่จะเริ่มขึ้นทะเบียนและเข้าไปจัดจำหน่าย ทั้งโอมาน เกาหลี เป็นต้น 5.การขยาย OEM / ODM โดยเน้นการรับจ้างผลิตสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามให้แบรนด์อื่น ๆ และจะ เพิ่มการใช้กำลังการผลิต เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการ พัฒนาสูตรใหม่ และ สร้างความร่วมมือกับลูกค้าใหม่ 
|