บล.บลูเบลล์ ประกาศกลยุทธ์ปี 69 มุ่งยกระดับองค์กรครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO “อมฤต ศุขะวณิช” พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่จากหัวใจธุรกิจทุกสายงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน–ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า หลังปีที่ผ่านมาเติบโตโดดเด่น ยอดขายหุ้นกู้พุ่งทำสถิติใหม่แตะ 14,000 ลบ. และ AUA โตทะลุ 50% บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด หรือ “บลูเบลล์” ประกาศทิศทางกลยุทธ์ปี 2569 มุ่งยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานชั้นนำ ภายใต้การนำของนายอมฤต ศุขะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่จากสายงานสำคัญของบริษัท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในทุกมิติของธุรกิจ และสร้างรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว 
ในปีที่ผ่านมา บลูเบลล์เร่งเครื่องสร้างการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท คาดว่ายอดขายหุ้นกู้จะพุ่งทำสถิติใหม่แตะระดับ 14,000 ล้านบาทในสิ้นปี สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงหนุนสินทรัพย์ตราสารหนี้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมตอกย้ำสถานะความแข็งแกร่งในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้ ขณะเดียวกัน ธุรกิจกองทุนรวมยังขยายตัวต่อเนื่อง หนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศในปีนี้ ผสานกับคุณภาพการบริการและคำแนะนำที่ทันต่อภาวะตลาดของบลูเบลล์ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น ดัน AUA เติบโตทะลุ 50% จากปีก่อน การเติบโตจากหุ้นกู้และกองทุนรวม ช่วยขับเคลื่อนให้ AUA ของบลูเบลล์เติบโตแข็งแรง สร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการขยายธุรกิจในปี 2569 การแต่งตั้งทีมผู้บริหารชุดใหม่ว่าเป็นก้าวสำคัญของบลูเบลล์ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ยุคใหม่ โดยมีผู้นำจากสายงานสำคัญเข้ามาร่วมพัฒนาโครงสร้างธุรกิจ ดังนี้ นางจริยา อัศวณรงค์ ประธานสายงานปฏิบัติการ นายธีรธร พิศาล ประธานเจ้าหน้าที่การเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มบริษัท (บริษัท บลูเบลล์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด) นายธีระยุทธ ไทยธุระไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ นายณัฐดนัย เลิศแสวงกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานตลาดทุน นายรามรัตน์ จารุรัตน์จามร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า นายสาธิต กีรติสถิตพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า นายวัชรพงษ์ ชำนาญกิจสุพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุนอิสระ นายอมฤตกล่าวว่า ทีมผู้บริหารชุดใหม่จะเข้ามาเสริมศักยภาพองค์กรภายใต้แนวคิด ONE BLUEBELL โดยเชื่อมโยงความเชี่ยวชาญจากทุกสายงานให้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งด้านกลยุทธ์ การบริหารลูกค้า และการพัฒนาธุรกิจ เพื่อรองรับปี 2569 ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น
บลูเบลล์จึงมุ่งผสานการทำงานของทุกทีม เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ผ่านบริการที่ใกล้ชิดและครอบคลุมมากขึ้น พร้อมนำเสนอคำแนะนำการลงทุนแบบเชื่อมโยง (Cross-functional Collaboration และ Cross-sell) เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจ และยกระดับความพึงพอใจของนักลงทุนในทุกมิติ บลูเบลล์ยังคงเดินหน้าตอกย้ำวิสัยทัศน์ “เชี่ยวชาญเป็นเลิศ เคียงข้างนักลงทุนชั้นนำอย่างจริงใจ” ด้วยการยกระดับมาตรฐานบริการที่ตั้งอยู่บนความถูกต้อง โปร่งใส และการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยมุ่งให้บริการที่ดีที่สุดเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในระยะยาวของนักลงทุน เป้าหมายของบลูเบลล์ไม่ใช่เพียงการเติบโตด้านธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่คือการเป็น ‘ตัวจริงด้านการลงทุน’ ที่นักลงทุนไว้วางใจได้ในทุกสภาวะตลาด เราจะยืนเคียงข้างลูกค้าอย่างจริงใจ ด้วยความเชี่ยวชาญที่พิสูจน์ได้ และทีมผู้บริหารชุดใหม่นี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในปี 2569 อย่างแข็งแกร่ง ***มองตลาดหุ้นโลกปี 69 ยังได้ AI หนุน ส่วน SET อัพไซด์จำกัดมองเป้า 1,380 จุด นายศุภกฤต พิทักษ์พรเกษม CISA ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด เปิดเผย มุมมองตลาดปี 69 ว่า บรรยากาศการลงทุนยังมีแนวโน้มเชิงบวก จาก 2 ปัจจัยหนุนสำคัญ คือ ทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายทั่วโลก โดยหลายธนาคารกลางยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีหน้า และผลประกอบการไตรมาส 3/68 ที่ออกมาดีในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA รวมถึงหุ้นสหรัฐและยุโรป ซึ่งจะช่วยประคองตลาดให้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แม้ Valuation เริ่มตึงตัว และอาจเห็นแรงขายทำกำไรเป็นระยะจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้น สำหรับนโยบายการเงินสหรัฐ ตลาดยังต้องจับตาท่าทีของเฟดในการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าปี 69 มีโอกาสลด 3 ครั้ง ช่วงก่อนการตัดสินใจแต่ละครั้งอาจทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น แต่หากเกิดการย่อตัว กลุ่มหุ้น AI จะเป็นแรงพยุงสำคัญ เพราะบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ยังเดินหน้าลงทุนใน AI อย่างเข้มข้น สะท้อนผ่านกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้สตอรี่ AI ยังเป็นปัจจัยบวกต่อเนื่องในปี 69 และช่วยจำกัด downside ของตลาดโดยรวม ธีมการลงทุนเด่นปี 69 ยังเน้นตลาดสหรัฐและหุ้นเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง โดยแนะนำ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ หุ้นเทคโนโลยีเชิงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ดาต้าเซนเตอร์ กลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่มเทคโนโลยีควอนตัม ซึ่งคาดว่าจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนา AI ระยะถัดไป และเริ่มได้รับความสนใจจากบริษัทใหญ่แล้ว ด้านสัดส่วนการลงทุนแนะนำจัดพอร์ตดังนี้ หุ้นโลก 30% หุ้นสหรัฐ 20% โดยเน้นหุ้นเทคฯ หุ้นอินเดียและจีนรวม 20% สินทรัพย์ทางเลือก เช่น ประกัน ทองคำ และบิตคอยน์ รวม 30% ส่วนตลาดหุ้นไทยปี 69 มองว่ามีอัพไซด์จำกัด ประเมินดัชนีที่ระดับ 1,380 จุด บนสมมติฐาน PE 15 เท่า และ EPS ราว 92 บาท โดยปัจจัยหนุนจำกัด จึงแนะนำเพิ่มสัดส่วนลงทุนต่างประเทศ ทั้งนี้ เป้าดัชนี 1,380 จุดตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าการเลือกตั้งปลายเดือนมกราคม 69 จะเกิดขึ้นตามแผน 
|