ข่าวหุ้นไทย14 พ.ย. 2568 14:30 น.บล.ทิสโก้ : SABINA แนะนำ “ถือ” มูลค่าที่เหมาะสม 16.00 บาทบล.ทิสโก้ : SABINA แนะนำ “ถือ” มูลค่าที่เหมาะสม 16.00 บาทstar_borderModal Upgrade PackageModal Upgrade PackageefinAI กำไรสุทธิ 3Q25 เป็นไปตามคาด ขณะที่ NSR เริ่มหดตัวลงSABINA รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 อยู่ที่ 97 ล้านบาท (-12% YoY, -4% QoQ) เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยรายได้รวมอยู่ที่ 802 ล้านบาท หดตัว 8% YoY เพราะช่องทางหลัก Sabina brand ที่ลดลงมากขึ้นเป็น 15% YoY เป็น 432 ล้านบาท อีกทั้งช่องทาง NSR ยังพลิกกลับเป็นหดตัวลงเป็นไตรมาสแรกที่ 5% YoY เป็น 308 ล้านบาทจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่อ่อนแอและการลดลงของช่องทาง TV Shopping ขณะที่ช่องทาง OEM ฟื้นตัว 37% YoY ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันอยู่ที่ 63 ล้านบาท ส่วน OPM ปรับตัวลดลงเหลือ 15.1% จาก 16.1% ใน 3Q24 จากยอดขายที่ลดลง ด้วยแนวโน้มรายได้ที่ยังหดตัวจากกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอในขณะที่ยอดขาย OEM ที่ฟื้นตัวยังไม่เพียงพอที่จะช่วยชดเชย เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F ลงเฉลี่ย 6.7% c]tยังคงคำแนะนำเพียง “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 16.0 บาท (จากเดิม 19.4 บาท) โดย Downside ในปัจจุบันถูกจำกัดด้วยเงินปันผลที่คาดจ่ายสูงราว 8% จาก Payout Ratio ที่ 100% แนวโน้ม 4Q25F คาดยังหดตัว YoY แต่ ฟื้นตัว QoQเราคาดผลประกอบการ 4Q25F จะหดตัวต่อ YoY จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ การเข้ามาของคู่แข่งสินค้าราคาถูกที่กระทบยอดขาย NSR รวมถึงสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่อาจจะยังทรงตัวในระดับสูงจากการทยอยทำโปรโมชั่นเพื่อนกระตุ้นยอดขายในช่วง High season ในขณะที่ลูกค้า OEM อาจเป็น Upside ต่อประมาณการหากยังมีการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่องได้ในช่วงที่เหลือของปี โดย SABINA เริ่มเห็นลูกค้ารายใหม่ๆเข้ามาติดต่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ได้อานิสงส์ของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสม 16.0 บาท คงคำแนะนำเป็น “ถือ”เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2025F ที่ 16.0 บาท โดยใช้ P/E ที่ 13.8x -2.0 Sd เพื่อสะท้อนการชะลอตัวลงของ EPS ที่ 13% YoY ในปี 2025F โดยมีเงินปันผลสูงที่ยังคาดสูงราว 7% ต่อปีจากการจ่าย Payout ratio 100% ปัจจัยเสี่ยงมาจากการฟื้นตัวของรายได้ อัตรากำไรขั้นต้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่แย่กว่าคาด efinAI Editing byชุติมา มุสิกะเจริญ
กำไรสุทธิ 3Q25 เป็นไปตามคาด ขณะที่ NSR เริ่มหดตัวลงSABINA รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 อยู่ที่ 97 ล้านบาท (-12% YoY, -4% QoQ) เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยรายได้รวมอยู่ที่ 802 ล้านบาท หดตัว 8% YoY เพราะช่องทางหลัก Sabina brand ที่ลดลงมากขึ้นเป็น 15% YoY เป็น 432 ล้านบาท อีกทั้งช่องทาง NSR ยังพลิกกลับเป็นหดตัวลงเป็นไตรมาสแรกที่ 5% YoY เป็น 308 ล้านบาทจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่อ่อนแอและการลดลงของช่องทาง TV Shopping ขณะที่ช่องทาง OEM ฟื้นตัว 37% YoY ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันอยู่ที่ 63 ล้านบาท ส่วน OPM ปรับตัวลดลงเหลือ 15.1% จาก 16.1% ใน 3Q24 จากยอดขายที่ลดลง ด้วยแนวโน้มรายได้ที่ยังหดตัวจากกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอในขณะที่ยอดขาย OEM ที่ฟื้นตัวยังไม่เพียงพอที่จะช่วยชดเชย เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F ลงเฉลี่ย 6.7% c]tยังคงคำแนะนำเพียง “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 16.0 บาท (จากเดิม 19.4 บาท) โดย Downside ในปัจจุบันถูกจำกัดด้วยเงินปันผลที่คาดจ่ายสูงราว 8% จาก Payout Ratio ที่ 100% แนวโน้ม 4Q25F คาดยังหดตัว YoY แต่ ฟื้นตัว QoQเราคาดผลประกอบการ 4Q25F จะหดตัวต่อ YoY จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ การเข้ามาของคู่แข่งสินค้าราคาถูกที่กระทบยอดขาย NSR รวมถึงสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่อาจจะยังทรงตัวในระดับสูงจากการทยอยทำโปรโมชั่นเพื่อนกระตุ้นยอดขายในช่วง High season ในขณะที่ลูกค้า OEM อาจเป็น Upside ต่อประมาณการหากยังมีการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่องได้ในช่วงที่เหลือของปี โดย SABINA เริ่มเห็นลูกค้ารายใหม่ๆเข้ามาติดต่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ได้อานิสงส์ของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสม 16.0 บาท คงคำแนะนำเป็น “ถือ”เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2025F ที่ 16.0 บาท โดยใช้ P/E ที่ 13.8x -2.0 Sd เพื่อสะท้อนการชะลอตัวลงของ EPS ที่ 13% YoY ในปี 2025F โดยมีเงินปันผลสูงที่ยังคาดสูงราว 7% ต่อปีจากการจ่าย Payout ratio 100% ปัจจัยเสี่ยงมาจากการฟื้นตัวของรายได้ อัตรากำไรขั้นต้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่แย่กว่าคาด