ข่าวหุ้นไทย27 ต.ค. 2568 09:37 น.TURBO รุกหนักธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ตั้งเป้า 3 ปี พอร์ตโตเฉลี่ย 15-25%TURBO รุกหนักธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ตั้งเป้า 3 ปี พอร์ตโตเฉลี่ย 15-25%star_borderefinAI สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -27 ต.ค. 68 9:37: น. TURBO รุกธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยเต็มสูบ ตั้งเป้าขยายพอร์ตเติบโตต่อเนื่อง 15-25% ต่อปีใน 3 ปีข้างหน้า เดินหน้าพัฒนาช่องทางขายออนไลน์ พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตรเพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกประกันที่ตรงใจ รับเทรนด์ตลาดประกันวินาศภัยไทยโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประกันรถยนต์ นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ วางแผนรุกธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยฯ อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตเติบโต 15-25% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยจะทำให้การซื้อประกันภัยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทั้งการพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางชำระเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตเพื่ออำนวยความสะดวก ขณะเดียวกันจะขยายเครือข่ายร่วมกับพันธมิตร เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด การรุกขยายตลาดนายหน้าประกันวินาศภัยของ TURBO สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจประกันภัย โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ชี้ว่านับจากไตรมาส 1 ปี 2561 ถึงไตรมาส 1 ปี 2568 แม้ภาพรวมธุรกิจประกันภัยเติบโตเล็กน้อย แต่ตลาดประกันวินาศภัยซึ่งมี "ประกันภัยรถยนต์" เป็นผลิตภัณฑ์หลัก มีสัดส่วนตามมูลค่าเบี้ยประกันสูงสุดถึง 53.5 - 60.4% ของเบี้ยประกันภัยรวม โดยการขายผ่านนายหน้าถือเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีสัดส่วนมากที่สุดในตลาดประกันวินาศภัย และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าว่า TURBO กำลังเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์และช่องทางจัดจำหน่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตของรายได้ทั้งในส่วนของธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกันภัยไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องและปัจจุบันได้พัฒนาแอปพลิเคชัน "เงินเทอร์โบ" เพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบยอดสินเชื่อคงค้างและชำระค่างวดผ่านทางช่องทางออนไลน์ ตลอดจนกลุ่มบริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาช่องทางการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ลูกค้าปัจจุบันของกลุ่มบริษัทฯ สามารถจัดการวงเงินเองได้ เป็นต้น efinAI แท็กที่เกี่ยวข้องTURBOธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยประกันภัยสุธัช เรืองสุทธิภาพเงินเทอร์โบABOUT THE AUTHORจำเนียร พรทวีทรัพย์editor
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -27 ต.ค. 68 9:37: น. TURBO รุกธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยเต็มสูบ ตั้งเป้าขยายพอร์ตเติบโตต่อเนื่อง 15-25% ต่อปีใน 3 ปีข้างหน้า เดินหน้าพัฒนาช่องทางขายออนไลน์ พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตรเพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกประกันที่ตรงใจ รับเทรนด์ตลาดประกันวินาศภัยไทยโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประกันรถยนต์ นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ วางแผนรุกธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยฯ อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตเติบโต 15-25% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยจะทำให้การซื้อประกันภัยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทั้งการพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางชำระเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตเพื่ออำนวยความสะดวก ขณะเดียวกันจะขยายเครือข่ายร่วมกับพันธมิตร เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด การรุกขยายตลาดนายหน้าประกันวินาศภัยของ TURBO สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจประกันภัย โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ชี้ว่านับจากไตรมาส 1 ปี 2561 ถึงไตรมาส 1 ปี 2568 แม้ภาพรวมธุรกิจประกันภัยเติบโตเล็กน้อย แต่ตลาดประกันวินาศภัยซึ่งมี "ประกันภัยรถยนต์" เป็นผลิตภัณฑ์หลัก มีสัดส่วนตามมูลค่าเบี้ยประกันสูงสุดถึง 53.5 - 60.4% ของเบี้ยประกันภัยรวม โดยการขายผ่านนายหน้าถือเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีสัดส่วนมากที่สุดในตลาดประกันวินาศภัย และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าว่า TURBO กำลังเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์และช่องทางจัดจำหน่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตของรายได้ทั้งในส่วนของธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกันภัยไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องและปัจจุบันได้พัฒนาแอปพลิเคชัน "เงินเทอร์โบ" เพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบยอดสินเชื่อคงค้างและชำระค่างวดผ่านทางช่องทางออนไลน์ ตลอดจนกลุ่มบริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาช่องทางการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ลูกค้าปัจจุบันของกลุ่มบริษัทฯ สามารถจัดการวงเงินเองได้ เป็นต้น