ธปท. จับมือ ธนาคารออมสิน ศึกษาครัวเรือนฐานราก ออกแบบสินเชื่อเฉพาะกลุ่ม ดึงคนไม่มีประวัติการเงินเข้าถึงสินเชื่อ หวังแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างควบคู่รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงานลงนามความร่วมมือ โครงการศึกษาครัวเรือนฐานราก เพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบว่า ขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างปรับบทบาท จากเดิมจะเน้นความสำหรับกับการดำเนินนโยบาย เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคผ่านการใช้นโยบายทางการเงิน โดยในวันนี้ธปท.จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในจุดต่างๆ โดยการออกมาตรการเฉพาะจุด เพื่อช่วยประชาชน ช่วยสังคม และประเทศชาติ สำหรับในช่วงที่ผ่านมา ธปท.ได้ดำเนินการออกโครงการแรก คือ การแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยการโอนหนี้ที่ต่ำกว่า 100,000 บาท เข้าไปอยู่ที่ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) จำนวน 1.6 ล้านราย โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยืดหยุน ซึ่งประเมินว่าจะส่งผลให้คนกลุ่มดังกล่าวหลุดพ้นจากหนี้เสียได้ 500,000-800,000 ราย ขณะเดียวกัน ธปท.อยู่ระหว่างร่วมกับ กระทรวงการคลัง และสมาคมธนาคารไทย เพื่อออกโครงการลดความเสี่ยงด้านเครดิต เพื่อให้เอสเอ็มอีที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ โดยมีเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อได้ 100,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การที่เอสเอ็มอีไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ เป็นเรื่องที่น่ากังวล จากตัวเลขล่าสุด สินเชื่อเอสเอ็มอีติดลบ 13 ไตรมาส ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อไม่ให้เป็นตัวรั้งระบบเศรษฐกิจต่อไป 
นายวิทัย กล่าวว่า สำหรับรายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ ก็ถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างอีกอันหนึ่ง โดยพยายามดึงกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในระบบให้ได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่จะดำเนินการต่อไป โดยเรื่องนี้ ธนาคารออมสินมีการดำเนินโครงการมาแล้ว คือ สินเชื่อเพื่อสร้างเครดิต ซึ่งล่าสุดปล่อยสินเชื่อแล้ว 200,000 ราย เป้าหมายคือ กลุ่มคนที่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อได้เลย และมีเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อได้ถึง 1 ล้านคนใน 3 ปี “เรามีความหวังว่าจะขยายตรงนี้ให้มากขึ้น โดยข้างหนึ่งคือธนาคารออมสิน ส่วนอีกข้างคือจะใช้กลไกของสถาบันป๋วยฯ เข้ามาศึกษาเพิ่มเติมว่า ปล่อยไปแล้ว 200,000 รายพฤติกรรมเป็นอย่างไร แก้ไขอย่างไรและจะขยายโครงการได้อย่างไร ซึ่งเป็นแนวทางที่สถาบันป๋วยฯ เข้ามาช่วย อีกข้างจะทำนโยบายต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินอื่นเข้ามาช่วยในลักษณะอย่างนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างคิดนโยบายและดำเนินการในระยะถัดไป”นายวิทัย กล่าว นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการ และรักษาการผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า การดำเนินโครงการศึกษาครัวเรือนฐานราก ดังกล่าว เนื่องจากออมสินมีเป้าหมายที่จะยกระดับกลุ่มคนฐานราก ผ่านการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขที่ผ่อนปรน แก้ไขปัญหาหนี้สิน และไม่เสียประวัติทางการเงิน รวมทั้งพัฒนาทักษะทางการเงิน ยกระดับทักษะทางอาชีพ เพื่อให้คนฐานรากสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีครัวเรือนไทย 30% ที่ยังเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้ และต้องมีบางส่วนที่หันไปพึ่งพาหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะกลุ่มคนฐานรากที่มีรายได้น้อย หรือ รายได้ที่ไม่แน่นอนต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้อย่างรุนแรง จากการขาดประวัติเครดิตทางการเงิน ทำให้ไม่มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนดอกเบี้ยที่เหมาะสม และเป็นธรรม โดยกว่าครึ่งต้องพึ่งพาเงินกู้ดอกเบี้ยสูง และเป็นหนี้นอกระบบส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น รายได้ยิ่งไม่เพียงพอ ทั้งนี้ จากเรื่องดังกล่าว ธนาคารออมสินเห็นว่าหากจะสร้างระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมจะต้องเป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคนในสังคม ธนาคารจึงพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ในการให้สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส เพื่อเป็นเครื่องมือเปิดประตูให้ประชาชนที่ไม่มีประวัติทางการเงิน ได้เริ่มต้นสร้างเครดิตอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม สำหรับปัจจุบันธนาคารสร้างให้คนไทยมีประวัติทางเครดิตแล้วกว่า 200,000 ราย ทั้งนี้ ธนาคารยังสร้างโอกาสไม่ใช่แค่การให้สินเชื่อ ยังได้ก่อตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้ธนาคารมีฐานข้อมูลเชิงลึกในการขับเคลื่อนบทบาทได้อย่างแท้จริง โดยธปท.ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่ วิถีชีวิต และความต้องการ รวมถึงความขาดหวังของคนที่ยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อด้วย เพื่อให้สามารถออกแบบเครื่องมือทางการเงินที่ตรงจุด ตอบโจทย์ และนำไปสู่การสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้ ช่วยให้คนไทยมีประวัติเครดิตอย่างทั่วถึง ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการในครั้งนี้ อาจไม่ใช่แค่สร้างโอกาสให้กับประชาชนเท่านั้น ยังสร้างโอกาสให้เราได้เข้าถึงคนกลุ่มที่อยู่นอกระบบมาก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะได้พิจารณาคนที่อยู่ในระบบแล้ว ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นข้อมูล และออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตรงจุดได้ สำหรับการร่วมมือกันวันในครั้งนี้ จะดำเนินการใน 4 ด้าน คือ 1.การสำรวจกลุ่มตัวอย่างคนที่อยู่นอกระบบที่เข้าโครงการ เพื่อเข้าใจวิถีชีวิต พฤติกรรมทางการเงิน 2.ออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม 3.การเก็บข้อมูลลูกหนี้กลุ่มนี้ เพื่อหาเดต้าตัวไหนที่บอกเครดิตของกลุ่มดังกล่าวได้ เพื่อสุดท้ายหากสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้ Your Data คือตัวไหนเพื่อสามารถระบุได้ว่าสามารถชำระหนี้ได้จริงๆ 4.ติดตามกลุ่มนี้ว่าเข้าสินเชื่อได้แล้ว มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง 
|