TLI ระบุ ปี 69 ตั้งเป้ากำไรการให้บริการประกันใหม่(New Business CSM) ปี 69 บวกระดับ 2 หลัก แย้มอาจโยกเงินจากหุ้นนอกมาลงทุนหุ้นไทยมากขึ้น หากมีเลือกตั้ง - ได้รัฐบาลใหม่
นาย ฉี หลิง หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และ Chief Actuary บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยในงาน Oppportunity Day ว่าในช่วงไตรมาส 4/68 มีมุมมอง Neutral (คงน้ำหนักการลงทุน) ต่อบริษัทฯ เนื่องจากมองภาพรวมเศรษฐกิจยังชะลอตัวลงเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า ด้านอัตราดอกเบี้ยต่ำและมีสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ จะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ปัจจุบันอย่างใกล้ชิด รวมถึงตลาดเงินตลาดทุน อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้ามีความต้องการในแง่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มากขึ้น ซึ่ง TLI มีผลิตภัณฑ์สะสมทรัพย์แบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล (Par Product) ดังนั้นในช่วงไตรมาส 4/68 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์สะสมทรัพย์ตามความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สะสมทรัพย์แบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล (Par Product)
นอกจากนี้ยังมีแคมเปญผลักดันยอดขายสัญญาเพิ่มเติมด้านประกันสุขภาพ เนื่องจากยังมีโอกาสเติบโต อย่างไรก็ตามประกันสุขภาพในปี 67 มีฐานค่อนข้างสูง จากการที่ลูกค้าซื้อประกันก่อนแนวทางการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล (Co-payment) ประกาศใช้ในช่วงมี.ค. 68 ดังนั้นคาดว่าไตรมาส 4/68 การเติบโตอาจชะลอตัวลงเมื่อเทียบปีก่อน แต่เทียบไตรมาสก่อนหน้าคาดว่ายังเป็นบวก

อย่างไรก็ตามทั้งปี 68 คาดว่ามูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ยังตั้งเป้าการเติบโตเป็นบวก ด้านมูลค่าส่วนต่างบริการตามสัญญา (CSM) คาดเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก ส่วนในปี 69 คาดหวังการเติบโตกำไรจากการให้บริการตามสัญญาของกรมธรรม์ใหม่ (New Business CSM) คาดว่าในช่วงไตรมาส 1/69 จะเห็นการเติบโตที่ลดลงจากฐานไตรมาส 1/68 สูง จากการเร่งซื้อก่อนใช้ระบบ Co-payment
อย่างไรก็ตามในไตรมาสถัดๆ ไป ยังคงตั้งเป้าให้ New Business CSM เป็นบวกในระดับตัวเลข 2 หลัก ทั้งนี้บริษัทฯ ยังทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าต่อเนื่อง เช่น การคุ้มครองชีวิตพร้อมวางแผนการเกษียณ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปี 69 ยังมองสถานการณ์ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ โดยสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนเป็นระดับใกล้เคียงปีนี้ ซึ่งลงทุนตราสารทุนต่างประเทศสูง แต่หากปีหน้าไทยจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การเมืองสเถียรภาพ อาจปรับการลงทุนตราสารทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ บริษัทฯ ยังติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้รับผลกระทบหลายส่วน เบื้องต้นสำหรับการแจ้งเพื่อขอรับเงินชดเชยหรือค่าสินไหมทดแทน (เคลม) เข้ามาในบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ ตรวจสอบแล้วยังมีไม่มาก อีกทั้งส่วนใหญ่บริษัทฯ รับเคลมประกันชีวิตเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการรับประกันทรัพย์สินมีจำนวนน้อย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีมาตรการช่วยเหลือทั้งการมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ และเงินบริจาคประมาณ 1 แสนบาท ร่วมกับกระทรวงการคลัง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังขยายเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยออกไป 60 วัน สำหรับเบี้ยประกันที่ครบกำหนดชำระในช่วงพ.ย.68 - ก.พ.69

|