สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้รวบรวมมุมมอง ของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่ได้ประเมินทิศทางของ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ CBG จากบทวิเคราะห์ที่ออกมาในวันที่ 26 พ.ย.68 ดังนี้ | ชื่อโบรกเกอร์ | คำแนะนำ | ราคาเป้าหมาย (บาท) | | บล.ดาโอ (ประเทศไทย) | ซื้อ | 56 | | บล.ทิสโก้ | ซื้อ | 52.5 | | บล.เคจีไอ (KGI) | ซื้อ | 51 | | บล.หยวนต้า | ซื้อ | 51 | | บล.ฟินันเซีย ไซรัส | ซื้อ | 50 | | บล.พาย (Pi) | ถือ | 46 | สรุปปัจจัยบวก *ตลาดในประเทศแข็งแกร่งและทำสถิติใหม่:** ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในประเทศทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 27.6% ในเดือน ต.ค. และมีแนวโน้มรายได้ทำ New High ใน 4Q25 โดยตั้งเป้าปี 2026 จะครองส่วนแบ่ง 32% (บล.พาย, บล.ฟินันเซีย, บล.ดาโอ, บล.เคจีไอ, บล.ทิสโก้)
*กัมพูชาผ่านจุดต่ำสุดแล้ว:** สถานการณ์ในกัมพูชาเริ่มเห็นสัญญาณบวก คำสั่งซื้อเริ่มกลับมาหลังจากหยุดไปช่วง ส.ค.-ต.ค. และคาดว่าจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้น (บล.พาย, บล.ฟินันเซีย, บล.ดาโอ, บล.เคจีไอ, บล.หยวนต้า, บล.ทิสโก้) *โรงงานใหม่และกลยุทธ์การผลิต:** โรงงานในกัมพูชาจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือน ธ.ค. 2025 ช่วยลดต้นทุนและได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนสินค้า Made in Cambodia รวมถึงรับงาน OEM ในท้องถิ่นได้ (บล.พาย, บล.ฟินันเซีย, บล.ดาโอ, บล.หยวนต้า, บล.ทิสโก้) *การขยายตลาดด้วยสินค้าใหม่:** มีแผนออกสินค้าใหม่ราคา 12 บาท (Premium SKU) ในช่วงกลางปี 2026 เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นและส่วนแบ่งตลาด โดยสินค้า 10 บาทยังคงเป็นจุดแข็งหลัก (บล.พาย, บล.ฟินันเซีย, บล.ดาโอ, บล.เคจีไอ, บล.ทิสโก้) *การขยายตัวใน CLMV และตลาดใหม่:** ตลาดเมียนมาและเวียดนามยังเติบโตดี โรงงานในเมียนมาผลิตเต็มกำลัง ส่วนตลาดใหม่ (จีน, อัฟกานิสถาน) ใช้โมเดลขายหัวเชื้อ (Concentrate) และ OEM ช่วยลดความเสี่ยงและต้นทุน เป็น Upside ในอนาคต (บล.พาย, บล.ฟินันเซีย, บล.ดาโอ, บล.เคจีไอ, บล.หยวนต้า, บล.ทิสโก้) *ราคาหุ้นรับรู้ข่าวร้ายไปมากแล้ว (Valuation):** ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้าสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ปัจจุบันมี Risk/Reward ที่น่าสนใจ และ PE เริ่มกลับมาอยู่ในระดับต่ำ (บล.ดาโอ, บล.เคจีไอ, บล.ทิสโก้) *ธุรกิจเบียร์:** ตั้งเป้าเติบโต 200% ในปี 2026 จากฐานต่ำ และขยายจุดจำหน่ายเบียร์สด (บล.พาย, บล.เคจีไอ, บล.ทิสโก้) สรุปปัจจัยลบ / ความเสี่ยง *ผลกำไรระยะสั้นยังหดตัว YoY:** คาดกำไรในงวด 4Q25 จะยังคงลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แม้จะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน (QoQ) ก็ตาม (บล.พาย, บล.ดาโอ, บล.เคจีไอ) *ความเสี่ยงด้านต้นทุนในอนาคต:** อัตราการทำกำไรในปี 2026 อาจถูกกดดันจากราคาอลูมิเนียมที่มีแนวโน้มสูงขึ้น (บล.พาย, บล.เคจีไอ) *การฟื้นตัวของกัมพูชาอาจต้องใช้เวลา:** แม้ผ่านจุดต่ำสุด แต่ยอดขายอาจยังฟื้นตัวไม่เร็วนักจากสภาพเศรษฐกิจ และต้องใช้เวลาสร้างยอดขายกลับคืนมา (บล.พาย, บล.ดาโอ, บล.ทิสโก้) *การแข่งขันที่รุนแรง:** ตลาดในประเทศมีการแข่งขันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (บล.พาย, บล.เคจีไอ) *ความเสี่ยงจากการแย่งยอดขายกันเอง (Cannibalization):** การออกสินค้าใหม่ราคา 12 บาท อาจแย่งยอดขายสินค้าเดิมราคา 10 บาท (บล.เคจีไอ, บล.ทิสโก้) *ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์:** ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง (บล.เคจีไอ)  |