BANPU เตรียมควบรวม BPP ตามแผนปรับโครงสร้างภายในเพิ่มความคล่องตัวธุรกิจ เกิดเป็นบริษัทมหาชนใหม่ พร้อมตั้งโต๊ะซื้อหุ้น BPP ที่ราคา 13.00 บาทต่อหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติปรับโครงสร้างบริษัท โดยจะควบรวม บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ตามแผนปรับโครงสร้างภายในเพิ่มความคล่องตัวธุรกิจ เกิดเป็นบริษัทมหาชนใหม่ การควบรวมนั้น BANPU มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มบริษัทมีความคล่องตัว และเป็นไปตามกลยุทธ์ Energy Symphonics เนื่องจาก โครงสร้างการจดทะเบียนในปัจจุบันของกลุ่มบริษัท ยังไม่เอื้อต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเต็มศักยภาพ การปรับ โครงสร้างครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างกลุ่มธุรกิจสอดคล้องกับช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และเพิ่มสัดส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากธุรกิจที่ไม่ใช่ถ่านหิน (Non-coal) โดยหลังควบรวม BPP จะสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล และเกิดเป็นบริษัท มหาชนจำกัดใหม่ขึ้นจากการควบบริษัท ซึ่งบริษัทใหม่ จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว 40,496,219,730 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 4,049,621,973 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ก่อนการควบรวม BANPU จะทำคำเสนอซื้อหุ้น BPP ส่วนที่เหลือทั้งหมด (21.34%) จากผู้ถือหุ้นรายย่อย ในราคา 13.00 บาทต่อหุ้น 
การจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ BPP ในอัตราส่วนการแลกหุ้น (Swap Ratio) ดังต่อไปนี้ 1 หุ้นเดิมใน BANPU ต่อ 0.35575 หุ้นในบริษัทใหม่ 1 หุ้นเดิมใน BPP ต่อ 0.74615 หุ้นในบริษัทใหม่ นอกจากนี้ BPP จะขายสิทธิการลงทุน 25% ใน BKV-BPP Power LLC ให้ BKV Corporation (BKV) (บริษัทย่อยทางอ้อมของ BANPU) มูลค่ารวมราว 376 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 12,253 ล้านบาท) โดยชำระ เงินสด 50% + หุ้นเพิ่มทุน BKV 50% คาดปิดดีล ไตรมาส 1/2569 หลังอนุมัติครบถ้วน การเพิ่มสัดส่วนเป็น 75% ทำให้ BANPU สามารถ รวมผลการดำเนินงาน (Consolidation) ของ BKV-BPP เข้ามาในงบการเงินของบริษัทฯ ได้เต็มจำนวน จากเดิมที่บันทึกบัญชีแบบบริษัทร่วม (Joint Venture) ซึ่งจะส่งผลให้ฐานรายได้และกำไรของกลุ่มที่ไม่ใช่ถ่านหิน (Non-coal) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 
|