MTC เผยปี 69 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 10-15% ใกล้เคียงปีนี้ หวังเพิ่มพอร์ตคงค้างแตะ 200,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 180,453 ล้านบาท มองแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/68 จะดีกว่าไตรมาส 3/68 หลังไฮซีซั่น และ ค่าใช้จ่ายลง นายปริทัศน์ เพชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ปี 2569 บริษัทคาดการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 10-15% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับปี 2568 และ พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท จากไตรมาส 3/68 ที่อยู่ 180,453 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 13.26% ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/68 จะดีกว่าไตรมาส 3/68 เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยนอกจากจะมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งแล้ว บริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เป็นต้นไป จากอยู่ในจุดสูงสุดในไตรมาส 3/68 นอกจากนี้ ปลายเดือนพ.ย. 68 บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ และ ปี 2569 จะทยอยออกหุ้นกู้ต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโต และ ชดเชยหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอน 
สำหรับปี 2568 มั่นใจว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 10-15% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 2.70% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรมภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายของสหประชาชาติ โดยเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม สร้างสังคมไทยให้เป็นสุข พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ เพื่อรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุดเช่นเดิม "พอร์ตสินเชื่อเติบโตได้ 13% ซึ่งทำให้ทั้งปีมองว่า จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10-15% และ ทิศทางหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ลดลงมาแล้ว รวมถึงการตั้งสำรอง ก็เป็นไปตามทิศทางที่วางไว้”นายปริทัศน์ กล่าว อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MTC ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ โปร่งใส และธรรมาภิบาล โดยได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ (CG Rating 5 ดาว) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 รวมถึงผลการประเมินด้านความยั่งยืน (ESG Rating) ระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวในประเทศที่ระดับ A-(tha) จาก Fitch Ratings ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพทางการเงินและความเชื่อมั่นขององค์กรในระดับสากล นอกจากนี้ MTC ยังได้รับรางวัล “Best Micro Finance Company Thailand 2025” จากเวที Global Banking & Finance Awards พร้อมร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) , องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และ บริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (KfW DEG) เพื่อผลักดันการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างยั่งยืน และ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว พร้อมได้รับการสนับสนุนจาก Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ภายใต้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สำหรับผลประกอบการ ในไตรมาส 3/68 มีรายได้อยู่ที่ 7,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.10% ทำให้ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 1,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ สามารถควบคุมคุณภาพหนี้เสีย (NPL) ไว้ที่ 2.60% ส่วน 9 เดือนปีนี้ มีรายได้รวม 22,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% และ กำไรสุทธิ 4,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.27% เทียบช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อน “ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้และกำไรในไตรมาส 3/68 ยังคงมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่มีหลักประกันควบคู่กับการขยายสาขาต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อขยายตัวได้มากขึ้น โดยปัจจุบันได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 437 สาขา จากสิ้นปีก่อน รวมทั้งสิ้นเป็น 8,609 สาขา ณ สิ้น ก.ย. 68 โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่ให้ครบ 600 สาขาในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ให้บริการไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก โดยเน้นจุดแข็งด้านความยั่งยืนทางธุรกิจ สร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ”นายปริทัศน์ กล่าว |