ม.หอการค้าไทย ปรับลดเป้าจีดีพีปี 68 เหลือ 1.9% จาก 2%  ส่วนปี 69 คาดโตแค่ 1.6%   พร้อมประเมินน้ำท่วมสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท   กระทบจีดีพี 0.22%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และ ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี 2568 โดยคาดว่าจะโต 1.9% ลดลงจากการประเมินครั้งก่อนที่คาดจะโต 2%   

โดยจีดีพีปีนี้ที่ปรับลดลง สาเหตุหลักมาจากผลกระทบ และ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าใหญ่ของภาคใต้ โดยประเมินว่า ผลกระทบน้ำท่วมจะมีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท ในช่วง 1 เดือน ซึ่งกระทบต่อจีดีพีให้ลดลงประมาณ 0.22%

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบกดดัน เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 32.8 ล้านคน จากเดิมคาดไว้ 33 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้ง การใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่ลดลงเหลือ 1.51 ล้านล้านบาท จากพฤติกรรมที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงอุปสงค์ภาครัฐในช่วงไตรมาส 3/68 ที่ลดลง -3.9%

สำหรับปี 2569 คาดจีดีพี จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่โต 1.6%  โดย ปัจจัยลบที่กดดันภาวะเศรษฐกิจ มีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้า และ ข้อจำกัดทางการเงินเป็นตัวฉุดรั้งที่สำคัญ โดยเฉพาะกำแพงภาษีสหรัฐ , การค้าโลกชะลอกดดันภาคการส่งออกของไทย , หนี้ครัวเรือนสูง กดดันสภาพคล่อง ยอดปฎิเสธสินเชื่อ และ การลงทุนเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น , สูญญากาศงบประมาณ ความล่าช้างบปี 2570 อาจกระทบการลงทุนภาครัฐช่วงไตรมาส 4/69 , ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา อาจกระทบการค้าและห่วงโซ่อุปทาน

ด้านปัจจัยบวกที่จะขับเคลื่อนมาจากแรงส่งหลักการท่องเที่ยว ซึ่งคาดนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน สร้างรายได้ 1.65 ล้านล้านบาท , อุปสงค์ในประเทศขยายตัว การบริโภคเอกชนเติบโต 2% และ การลงทุนเติบโต 2% , งบลงทุนภาครัฐเพิ่ม 18.2% เป้าเบิกจ่ายลงทุนสูงถึง 70% ในปีงบประมาณ 2569 , ภาคเกษตรได้ประโยชน์ สภาพอากาศมีความเป็นกลาง และ ปริมาณน้ำที่เพียงพอ , เม็ดเงินจากการเลือกตั้ง 50,000-60,000 ล้านบาท ซึ่งจะกระตุ้นจีดีพีไตรมาส 1/69

"จีดีพีปี 69 คาดโต 1.6% จากปีนี้ 1.9% ในขณะที่การส่งออกหดตัว 1% จากปีนี้ 11.1% โดยมาจากฐานที่สูงในปี 68 และ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ตลอดจนความขัดแย้งอาจมีความรุนแรงกว่าที่คาด ซึง่จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยในปี 69"นายธนวรรธน์ กล่าว