อินเดีย เตรียมเช่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากรัสเซีย เป็นมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างการเดินทางเยือนอินเดียของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในวันที่ 4-5 ธ.ค.นี้ โดยจะมีการส่งมอบเรือหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเจรจามานานเกือบสิบปี

แหล่งข่าวเผยว่า การเจรจาเพื่อเช่าเรือดำน้ำสำหรับปฏิบัติการจู่โจมจากรัสเซียชะงักนานหลายปีเนื่องจากต่อรองราคาไม่ลงตัว จนในที่สุดทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้วในเรื่องนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่อินเดียเดินทางได้ตรวจเยี่ยมอู่ต่อเรือของรัสเซียเมื่อเดือนพ.ย. และคาดว่า อินเดียจะได้รับมอบเรือภายในสองปี แม้จะมีความเป็นไปได้ว่า อาจล่าช้าออกไปเนื่องจากความซับซ้อนของโครงการ

ปูตินมีกำหนดเดินทางถึงอินเดียในวันนี้ (4 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการเยือนประเทศนี้ครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน โดยจะเข้าพบกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมและพลังงานระหว่างประเทศ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอินเดียได้กระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียและจีน เพื่อแสดงให้เห็นว่า อินเดียนั้นมีอำนาจในการกำหนดยุทธศาสตร์ของตนเอง หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดีย 50% ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลอินเดียยังคงเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อลดภาษี ซึ่งทรัมป์เป็นผู้กำหนดเพื่อกดดันให้อินเดียยุติการซื้อน้ำมันรัสเซีย ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ ต้องการใช้เป็นข้อต่อรองกับปูตินเพื่อยุติสงครามในยูเครน

พลเรือเอก ดิเนช เค. ตรีพาธี (Dinesh K. Tripathi) ผู้บัญชาการกองทัพเรือของอินเดีย เผยเมื่อช่วงสัปดาห์นี้ ก่อนการเดินทางเยือนของปูติน โดยคาดว่า เรือดำน้ำลำดังกล่าวจะเข้าประจำการในเร็ว ๆ นี้ และมีขนาดใหญ่กว่าเรือดำน้ำสองลำที่อยู่ในกองเรือ

รายงานของ Nuclear Threat Initiative (NTI) เผยว่า อินเดียได้พัฒนาขีปนาวุธทะเลสู่พื้น (SLBM) ที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ จึงทำให้ในทางทฤษฎี อินเดียมีแสนยานุภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ครบทั้ง 3 ทาง นั่นคือ ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ

ที่มา Bloomberg