โบรกฯ มองหุ้นไทย ธ.ค. แกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,230-1,300 จุด ลุ้นตลาดฟื้นตัว หลังปัจจัยกดดันต่างๆ เริ่มคลี่คลาย พร้อมจับตาการลดดอกเบี้ยของเฟด และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายของรัฐบาล บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ ภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนธันวาคม คาดว่าจะอยู่ในโหมดของการฟื้นตัว หลังจากที่หมดข่าวร้ายในระยะสั้นไปแล้ว ทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ที่อ่อนแอ หรือแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เกิดจากการปรับตะกร้าของดัชนี MSCI มองตลาดหุ้นจะเริ่มซึมซับข่าวดีเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยุติโครงการ QT ของ Fed, ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยของ Fed และ กนง. ซึ่งปัจจุบันยังไม่ถูก Fully priced in, การเข้าสู่ช่วง High season ของการบริโภคและการท่องเที่ยว รวมถึงสภาพคล่องในประเทศที่จะไหลเข้าสู่กองทุนลดหย่อนภาษีต่างๆในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ประเมินว่ามีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นมากกว่าเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในทางกลับกัน ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด มองไปยังผลกระทบทางกิจกรรมเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ภายหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา แต่เราเชื่อว่ามาตรการเยียวยาจากทางภาครัฐที่ทยอยออกมานั้น จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้บ้าง กลยุทธ์ลงทุน ประเมินกรอบการแกว่งตัวในกรณีฐานของ SET Index เดือนธันวาคมนี้ที่ระดับ 1,230-1,300 จุด โดยหากเกิดความผันผวนมากกว่านั้น มองว่ากรอบแนวรับและแนวต้านสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ 1,200 และ 1,330 จุดตามลำดับ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำพอร์ตที่ได้เข้าสะสมหุ้นไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วในช่วงที่ดัชนีย่อตัวลงมา สามารถถือครองหุ้นในส่วนดังกล่าวได้ โดยสัญญาณที่ดีล่าสุดที่เกิดขึ้นได้แก่เครื่องชี้ Market breadth ของตลาดหุ้นไทยที่ยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับภาพดัชนีที่มีการปรับตัวลงมา บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตัวหุ้นต่างๆที่สูงขึ้น และพร้อมสะสมกำลังเพื่อรอรับการปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวดีในช่วงถัดไป 
บล.ลิเบอร์เรเตอร์ ระบุว่า เข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายของปี คาดดัชนีเดือนนี้ยังมีแนวโน้มแกว่งผันผวนในกรอบ 1,230-1,300 จุด โดยประเด็นหลักยังจับตาที่ปัจจัยต่างประเทศ คือ การประชุม FED ในคืนวันที่ 10 ธ.ค. นี้ ซึ่งคาด FED มีโอกาสสูงที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ลง 0.25% เป็นแรงหนุนหลัก ส่วนการประชุมอื่นที่ยังคงน่าสนใจ เช่น การประชุม กนง. ในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยช่วงปลายปี อาจโดนกระทบจากภาวะน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งจุดนี้ทำให้ตลาดคาดหวังโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยได้เช่นกัน ขณะที่มุมมองบางส่วนประเมินว่า policy space ของไทยที่เหลือไม่เยอะอาจทำให้ กนง. คงดอกเบี้ยไว้ก่อนได้เช่นกัน ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิด ประเด็นที่น่าติดตามเพิ่มเติม เช่น การทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปี เช่น มาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้, โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ซึ่งคาดจะเป็นส่วนที่เข้ามาช่วยพยุง GDP ได้บ้างเล็กน้อย ขณะที่ยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ (คาดจะค่อยๆ ผ่อนคลายลง) ส่วนความไม่แน่นอนทางการเมือง เกาะติดการเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลยังไม่รีบยุบสภาในเดือน ธ.ค. นี้ กลยุทธ์การลงทุน เน้นย่อตั้งรับหุ้นกำไรเติบโตดี, สตอรี่เด่น และ Valuation อยู่ในระดับน่าสนใจ โดยสำหรับเดือนนี้เราแนะสะสม AOT, AMATA, GLOBAL, SGC - ความเสี่ยงคลี่คลาย ลุ้น SET ดีขึ้น
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า เศรษฐกิจเดือน ต.ค. ส่งสัญญาณ “ฟื้นตัวแต่ยังเปราะบาง” โดยหวังพึ่งมาตรการการคลังช่วงปลายปี และรายได้จากท่องเที่ยวใน High Season เพื่อดึงดุลบัญชีเดินสะพัดกลับสู่โซนบวก ทั้งนี้ การประชุม กนง. วันที่ 17 ธ.ค. จะเป็นจุดจับตาสำคัญ เพราะตลาดรอฟังการประเมิน GDP สิ้นปี และสัญญาณดอกเบี้ยไทยว่าจะผ่อนคลายมากขึ้นหรือไม่
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แม้ตลาดหุ้นโลกเดือน พ.ย. จะทรงตัว แต่ SET กลับอ่อนตัวถึง -4% หนักเป็นอันดับ 6 ของโลก จากแรงขายต่างชาติที่สูงสุดในเอเชียใต้ ท่ามกลางความกังวลการเมืองและน้ำท่วมใหญ่ที่หาดใหญ่ อย่างไรก็ดี เข้าสู่เดือน ธ.ค. ความเสี่ยงส่วนนี้เริ่มคลี่คลายลง น้ำท่วมลด น้ำมันฟื้นแรงขึ้น และแรงกดดันดอกเบี้ยอ่อนตัวลง ช่วยเปิดโอกาสให้ตลาดหุ้นไทยปรับดีขึ้นตามลำดับ หุ้นเด่นแนะนำ: TOP, AWC, ERW 
|