การจัดเก็บลดลง กระทบต่อทั้งรายได้และ ECL• กำไร 3Q68 อยู่ที่ 231 ล้านบาท อ่อนตัว 6%QoQ และ 46%YoY • ยอดจัดเก็บอ่อนตัวจากภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ • ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจ NPL ลดลง อีกทั้ง ECL ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น • ส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ลดลงเช่นกัน • ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลงราว 9% และ 19% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึง 1H69 เป็นอย่างน้อย เนื่องด้วยผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ • แนวโน้มกำไร 4Q68 อาจฟื้นตัวได้บ้าง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่ยังลดลง YoY • คงคำแนะนำเพียง "ถือ" เนื่องจากราคาหุ้นมี Upside จำกัด ยอดจัดเก็บกระแสเงินสดลดลง กระทบทั้งรายได้และ ECL. JMT ประกาศกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 246 ล้านบาท อ่อนตัว 6%QoQ และ 46%YoY หลังยอดจัดเก็บในไตรมาสนี้อยู่ที่ราว 1,226 ล้านบาท ลดลง 4%QoQ และ 12%YoY โดยสภาวะเศรษฐกิจกดดันความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือน บวกกับมาตรการช่วยเหลือลูกนี้ของการรัฐทำให้ลูกหนี้ชะลอการชำระหนี้ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการ NPLลดลงราว 2%QoQ และ 9%YoY นอกจากนี้ยอดจัดเก็บที่ลดลงต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ตั้งไว้ ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ (ECL) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6%QoQ และ 117%YoY กดดันกำไรค่อนข้างมาก ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ลดลงราว 25%QoQ และ 61%YoY ซึ่งแนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกับ JMT คาดกำไร 4Q68 ดีขึ้น QoQ แต่อ่อนตัว YoY. เราคาดกำไร 4Q68 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ แต่อ่อนตัว YoY โดยหากเทียบ QoQ คาดว่าจะได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาล ส่งผลให้ยอดจัดเก็บตัวที่ขึ้นบ้าง แม้ว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้จะยังอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับ 3Q68 เนื่องจากบริษัทยังมีนโยบายในการตั้งสำรองเชิงรุก ซึ่งคาดว่าบริษัทจะยังคงตั้งสำรองเชิงรุกไปจนถึง 1H69 และต้องรอสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนจึงจะเห็นการปรับตัวลดลงของค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อย่างมีนัยสำคัญ เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลงจากประมาณการก่อนหน้าอีกราว 9% และ 19% มาอยู่ที่ 1,070 ล้านบาท (-34%YoY) และ 1,186 ล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ โดยกำไงงวด 9M68 คิดเป็นราว 76% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2569 คงคำแนะนำ "ถือ" ยังไม่เห็นปัจจัยหนุนระยะสั้น. จากการปรับประมาณการ เราจึงให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ใหม่ที่ 10 บาท อิง PBV 0.5 เท่าโดยราคาหุ้นปัจจุบันนี้ Upside ค่อนข้างจำกัด บวกกับยังไม่เห็นการฟื้นตัวในระยะสั้น เราจึงคงแนะนำเพียง "ถือ" . ความเสี่ยง : อัตราการจัดเก็บหนี้และกระแสเงินสดและการซื้อหนี้ต่ำกว่าที่คาด นักวิเคราะห์ : ธนภัทร ฉัตรเสถียร เลขทะเบียนนักวิเคราะห์ : 49194 e-mail : [email protected]
|