ครม.เศรษฐกิจ อัดมาตรการ 4 ด้าน ช่วยชาวใต้ ทั้งพักชำระหนี้ต้น-ดอก 12 เดือน ดอกเบี้ย 0% เยียวยา 9,000 บาท/ครัวเรือน ลดหย่อนซ่อมบ้าน–รถ พร้อมดันมหกรรมธงฟ้าและซอฟต์โลนเอสเอ็มอี
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู รวม 4 ด้าน เพื่อให้ชีวิตประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ กลับมาใช้ชีวิตปกติได้อย่างเร็วที่สุด สำหรับมาตรการรวม 4 ด้าน มีดังนี้ 
1.ลดภาระหนี้-สินเชื่อ โดยจะพักชำระหนี้ เงินต้น และดอกเบี้ย ไม่เกิน 1 ล้านบาทตต่อราย เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยในระหว่างที่พักชำระหนี้ จะลดดอกเบี้ยเหลือ 0% รวมถึงผ่อนเครดิตเกณฑ์ไม่ให้เป็นหนี้เสีย หรือ NPL ด้วย เพื่อเป็นการต่อลมหายใจให้กับประชาชน และให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจ่ายหนี้ ขณะเดียวกันจะมีสินเชื่อเพื่อเยียวยา สำหรับลูกหนี้เดิม วงเงินกู้เดิม โดยสามารถกู้เพิ่มได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 12 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟู ซึ่งจะเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 12 เดือน วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยสถาบันการเงินของรัฐจะเข้ามาดูแลในการฟื้นฟูอาชีพ โดยทั้งหมด ธปท. และสมาคมธนาคารไทย จะออกแบบมาตรการต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน
ด้านผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟต์โลน ซึ่งจะมีบรรษัท ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกัน เพื่อให้กลับมาประกอบธุรกิจได้ โดยจะมีต้นแบบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ฟื้นฟูกลับมาได้โดยเร็ว
2.การเพิ่มเงินในกระเป๋า โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้จะพิจารณาอนุมัติงบกลาง เพื่อจ่ายเงินเยียวยา ให้กับประชาชนในอัตรา 9,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งจะจ่ายให้ประชาชนโดยเร็ว ซึ่งวันนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้เตรียมระบบพร้อมแล้ว เพื่อให้มีเงินสดในมือโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยกระทรวงการคลัง ได้ขยายเงินทดรองใช้จ่ายต่างๆ จังหวัดละ 100 ล้านบาท และผ่อนเกณฑ์การเบิกจ่าย ให้ใช้เงินกรณีฉุกเฉิน เพื่อช่วยประชาชนในพื้นที่ เพื่อช่วยจัดอาหาร จัดครัว ให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว
ขณะที่สินทรัพย์ที่เสียหาย คปภ. ได้ลงพื้นที่ เห็นความเสียหาย ที่อยู่อาศัย โดยกรมธรรม์ประกันภัย จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกิน20,000 บาท ส่วนร้านค้า ค้าสินไหมทดแทน 30,000 บาท ขณะที่รถยนต์สามารถเคลมเร็วได้ โดยใช้รูปภาพประกอบที่เห็นถึงระดับน้ำ เพื่อให้สามารถเคลมรถยนต์ได้ทันที ซึ่งเลขาคปภ. ประสานประกันแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว
ด้านกระทรวงแรงงาน ได้พบผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีการขยาย เงินนำส่งประกันสังคม นอกจากนั้น จะมีลูกจ้างต่างๆ จะได้รับเงินจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน และไม่สามารถทำงานได้ 50% ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 180 วัน และกระทรวงแรงงานจะมีสินเชื่อให้ผู้ประกอบการด้วย ส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการจ้างงาน ในกรณีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน กู้ได้ไม่เกิน 15 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการช่วยจ้างแรงงานต่อ
3.ลดภาระค่าใช้จ่าย ประกอบด้วยมาตรการภาษีต่างๆ ซึ่งจะขยายเวลาการชำระภาษีทั้งหมด และทางผู้ประกอบการได้ขอให้ดูแลเรื่องการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะประสานกับกระทรวงมหาดไทยต่อ ตามความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่ ขณะเดียวกันจะลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการซ่อมแซมทรัพย์สินตามจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท และการซ่อมแซมรถยนต์ ไม่เกิน 30,000 บาท และผู้ประกอบการจะมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า ส่วนผู้บริจาค สามารถลดหย่อนภาษีได้
ด้านกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ จะทำโครงการธงฟ้า หาสินค้าราคาถูก ลดต้นทุนผู้ประกอบการ และลดภาระให้กับประชาชนในพื้นที่
4.ด้านอื่นๆ ทำให้พื้นที่กลับมาฟื้นฟู และเข้มแข็งได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้ถอดบทเรียนทั้งหมด ทั้งการแก้ไขปัญหาระยะสั้น และเตรียมพร้อมในระยะยาว โดยศึกษาและขอความช่วยเหลือจากประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ญี่ปุ่น เพื่อมาวางระบบ ดูแลอุทกภัย หากเกิดเหตุการณ์นี้จะเอาบทเรียนมาแก้ไขปัญหาได้ระยะสั้น และยาว
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย หลังการฟื้นฟู จะเตรียมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว จัดสัมมนา และมอบนโยบายให้หน่วยราชการ หลังจากที่จ.ประสบภัย ได้ฟื้นแล้ว ให้หน่วยงานราชการจัดสัมมนา เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อเยียวยาและฟื้นฟู เป็นการบูรณาการภาครัฐและเอกชน ทุกคนร่วมกันบูรณาการออกมาเป็นมาตรการนี้ ช่วยเหลือประชาชนได้กลับมามีชีวิตได้ปกติ
“มาตรการทั้งหมด พักชำระหนี้ สินเชื่อเยียวยา และสินเชื่อฟื้นฟู ใช้กลไกของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยจะใช้งบประมาณของสถาบันการเงินของรัฐ ไม่กระทบกับภาครัฐ หรือ เงินงบประมาณ โดยการดำเนินโครงการนั้น ขณะที่มาตรการที่ใช้กลไกของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐนั้น จะมีการตั้ง PSA ไว้ด้วย เพื่อให้เป็นธรรมกับสถาบันการเงินด้วย โดยเป็นการช่วยกรณีหากมีความเสียหาย ภาครัฐ จะต้องเข้าไปช่วยดูแล”นายเอกนิติ กล่าว
นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ หน้าที่หลัก คือ ให้มั่นใจว่าประชาชนชาวภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบ มีสินค้า และมีเครื่องอุปโภคบริโภคไม่ขาดแคลน ในราคาต่ำ โดยจะแบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะแรก ทำทันที และทำอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งสินค้าอุปโภคบริโภค วัตถุดิบอาหาร ไข่ไก่ ข้าวสาร ลงในพื้นที่ โรงครัว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น เพราะทุกท่านต้องได้รับการดูแลอาหารอย่างทันที และต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับเอกชน ห้างร้าน ต่างๆ รวมถึงได้ส่งเงินลงไปช่วยในพื้นที่ ซึ่งเป็นการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นอกเหนือจากการควบคุมราคาสินค้า และการกักตุนสินค้า
ระยะที่สอง คือ การเยียวยา ซึ่งพิจารณาว่าทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การซ่อมแซมบ้าน ยานพาหนะ เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งได้ประสานกับห้างต่างๆ รวมถึงห้างเฉพาะกิน เช่น HMPRO DOHOME GLOBAL เพื่อให้ลดราคาสินค้าถึง 80% เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าได้ และร่วมกับ SCG ในการเอาอุปกรณ์และช่างลงในพื้นที่
ระยะที่ 3 มหกรรมธงฟ้า ซึ่งจะมีลักษณะพิเศษ ที่เน้นเรื่องอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นแล้ว ยังดูถึงการจัดจุดเคลื่อนที่ด้วย เนื่องจากบางกลุ่มอาจไม่สะดวกในการเดินทาง จะมีหน่วยโมบาย หรือเคลื่อนถึงไปให้ถึงและครอบคลุมด้วย รวมถึงการเสริมสร้างรายได้ในอนาคต การเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ เป็นต้น 
|