ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้พบกับเจนเซ่น หวง ซีอีโอของ Nvidia และกล่าวว่า ผู้นำบริษัทชิป AI ยักษ์ใหญ่รายนี้ ทราบดีอยู่แล้วว่า ตนเองนั้นมีจุดยืนเรื่องมาตรการควบคุมการส่งออกชิปไปยังจีนอย่างไร ขณะเดียวกัน เจนเซ่น หวงเอง ยังแสดงความไม่มั่นใจว่า หากรัฐบาลไฟเขียวให้ขายชิปได้ จีนจะยังต้องการซื้อหรือไม่

ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบคำถามต่อสื่อว่า ตนได้ชี้แจงต่อเจนเซ่น หวงเกี่ยวกับประเภทของชิปที่บริษัทสามารถขายให้จีนได้ และพูดถึงหวงว่า เป็นคนฉลาด ขณะที่ Nvidia ไม่ได้ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับการพบปะครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ Nvidia ขายชิปรุ่น H200 ซึ่งเป็นรุ่นรองจากรุ่นเรือธงในปัจจุบันอยู่หนึ่งขั้น ให้กับจีนด้วยหรือไม่

เจนเซ่น หวง เดินทางไปกรุงวอชิงตัน เพื่อเข้าพบและชี้แจงสมาชิกสภาคองเกรสว่า กฎระเบียบด้าน AI ของสหรัฐฯ ที่แตกต่างไปในแต่ละรัฐ อาจทำให้ความก้าวหน้าด้าน AI ชะลอตัวลง นอกจากนี้ Nvidia ยังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ที่จะบังคับให้บริษัทต้องเสนอขายชิปให้ลูกค้าในสหรัฐฯ ก่อน จึงจะสามารถขอใบอนุญาตส่งออกชิปไปยังประเทศที่สหรัฐฯ มีความกังวลได้ โดยบริษัทให้เหตุผลว่า กฎนี้จะทำลายความสามารถในการแข่งขันระดับโลกในตลาด AI

พร้อมกันนี้ ยังระบุว่า “ชิป GPU สำหรับศูนย์ข้อมูล AI มีน้ำหนักกว่า 2 ตัน มีชิ้นส่วนกว่า 1.5 ล้านชิ้น ใช้พลังงาน 200,000 วัตต์ และมีราคากว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” พร้อมเสริมว่า “ถ้ามีคนบอกว่าชิปเหล่านี้ ถูกลักลอบนำเข้า ผมก็อยากเห็นเหมือนกัน นี่ยังไม่ได้พูดถึงว่า คุณต้องลักลอบนำเข้าให้ได้มากพอจนเต็มพื้นที่สนามฟุตบอลเลยนะ”

ขณะเดียวกัน เจนเซ่น หวง ยังไม่แน่ใจว่าจีนจะยอมรับชิป AI รุ่น H200 ของบริษัทหรือไม่ แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะพิจารณาผ่อนคลายกฎควบคุมการส่งออกก็ตาม โดยหวงยอมรับว่า ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ เรื่องการควบคุมการส่งออก แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด อีกทั้งยังแสดงความไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจีน จะอนุญาตให้บริษัทจีน ซื้อชิป H200 ของตนหรือไม่ พร้อมระบุว่า “เราไม่รู้เลย เราไม่มีเบาะแสอะไรทั้งนั้น เราไม่สามารถขายชิปที่ถูกลดประสิทธิภาพให้จีน เพราะพวกเขาไม่ยอมรับ”

ทั้งนี้ การเปิดทางให้ขายชิป H200 ในจีน จะถือเป็นชัยชนะสำคัญของ Nvidia ซึ่งพยายามผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ผ่อนกฎควบคุม ที่ทำให้บริษัทไม่สามารถทำธุรกิจในตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกได้ โดยเจนเซ่น หวง ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์ ได้อธิบายว่า กฎที่เข้มงวดเกินไป จะส่งผลให้บริษัทจีนอย่าง Huawei พัฒนาจนมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในอนาคต 

ที่มา Reuters และ Bloomberg