รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ แห่งญี่ปุ่น มีแผนออกพันธบัตรใหม่ในวงเงินที่มากกว่าปีที่แล้ว เพื่อใช้ในแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชุดล่าสุด ซึ่งยิ่งทำให้ความกังวลต่อฐานะการคลังและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของประเทศที่กำลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น งบประมาณเพิ่มเติมของรัฐบาลญี่ปุ่น จะได้รับการสนับสนุนจากการออกพันธบัตรเพิ่มเติมอย่างน้อย 11.5 ล้านล้านเยน (73,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งกระทรวงการคลังญี่ปุ่นประเมินว่า รายได้ภาษีในปีงบประมาณนี้ จะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 80.7 ล้านล้านเยน ทำให้รัฐบาลมีงบส่วนเกินประมาณ 3 ล้านล้านเยน ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อลดความจำเป็นในการก่อหนี้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณหนี้ใหม่ครั้งนี้ ยังสูงกว่าการออกพันธบัตร 6.7 ล้านล้านเยนในยุคของอดีตนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะเมื่อปีที่แล้วอย่างมาก โดยคาดว่าคณะรัฐมนตรีจะอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าวในวันศุกร์นี้ (28 พ.ย.) 
การจัดทำงบประมาณเสริมครั้งนี้ สะท้อนโจทย์สำคัญของนางทาคาอิจิ ในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและความรับผิดชอบด้านวินัยการคลัง โดยมาตรการของนายกฯ ญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีวงเงินใช้จ่ายใหม่ราว 17.7 ล้านล้านเยน ซึ่งต้องพึ่งพาการจัดหาเงินจากงบเสริม ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 บรรดานักลงทุน ยังคงกังวลต่อเสถียรภาพการคลังในระยะยาวของญี่ปุ่น ภายใต้รัฐบาลทาคาอิจิ โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปีเมื่อช่วงต้นเดือน ขณะที่เงินเยนยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อคลายความกังวลของตลาด ทาคาอิจิส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “การออกพันธบัตรรวมทั้งปีงบประมาณนี้ จะต่ำกว่าปีก่อน” โดยในปีงบประมาณ 2024 ญี่ปุ่นออกพันธบัตรรวม 42.1 ล้านล้านเยน ครอบคลุมทั้งงบประมาณเบื้องต้นและงบประมาณเสริม ที่มา Bloomberg 
|