นายกฯ เมินภาษีทรัมป์ พร้อมระบุ ไทยมีศักยภาพ พร้อมมองหาตลาดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่หวั่นถูกกดดัน เหตุประเทศอื่นก็โดน ด้านปัญหาชายแดน ยันมีแผนปฏิบัติการพร้อม เกิดประโยชน์สูงสุด ต่ออธิปไตยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนต่อเกียรติภูมิศักดิ์ศรี ของทหาร และเจ้าหน้าที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 68 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ว่า วันนี้ประเทศไทยต้องยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนคนไทยเท่านั้น ส่วนเรื่องการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่ระบุว่า จะเป็นอย่างไรไม่สนแล้วนั้น เพราะเห็นว่า ไทยเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นหลัก ดังนั้นก็มีหน้าที่ที่จะต้องแสวงหาโอกาส หาตลาดใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา 
“หากขายประเทศนี้ไม่ได้ก็ไปหาประเทศอื่น ภาคเอกชนก็ต้องช่วยกัน เราจะเอาชีวิตไปฝากไว้กับประเทศๆเดียวได้อย่างไร ภาคเอกชนเข้าใจเรื่องนี้ดี เราก็ต้องหาตลาดใหม่ๆตลอดเวลา ใช้ภาษีมากดดันเราก็ไม่เป็นไร เพราะประเทศอื่นก็โดนผลกระทบเรื่องภาษีเหมือนกัน เราก็ต้องมานั่งคุยกันเอง”นายอนุทิน กล่าว นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ไทยมีหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าของประเทศไทย ให้เป็นที่ต้องการของทั่วโลกให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ ซึ่งศักยภาพของประเทศไทยมีแล้วเราจะไม่ให้สิ่งเหล่านี้ มาเป็นเป็นตัวฉุด หรือทำให้เราเสียเปรียบ หรือทำให้อธิปไตยของเรา ถูกก้าวล่วง ส่วนสถานการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้นขณะนี้ จะมีการชี้แจงกับสหรัฐฯ หรือไม่ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ลงนาม โดยกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ส่วนที่มีประชาชนบางส่วน ต้องการให้มีการสู้รบให้จบโดยเด็ดขาด และอีกส่วนกังวลจะมีการสู่รบ ยืนยันว่า เรามีแผนปฏิบัติอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องความมั่นคง การป้องกันประเทศ ไม่สามารถมาพูดในลักษณะการให้สัมภาษณ์ได้ อย่างไรก็ตามในคณะรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาล ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ กำหนดมาตรการและผู้ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่ออธิปไตยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนต่อเกียรติภูมิศักดิ์ศรี ของทหาร และเจ้าหน้าที่ที่คอยปกป้องดูแลแผ่นดินของเราอยู่ ทั้งนี้ ขอย้ำว่าทุกอย่างมีอยู่ในแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ |