บล.ดาโอ แนะจับตาหุ้นแบงก์ รับอานิสงส์ข่าว ราชกิจจาฯออกเกณฑ์ใหม่เรื่องซื้อหุ้นคืน ยกเลิกข้อบังคับที่ต้องรอ 6 เดือนก่อนเริ่ม buyback ใหม่ ชู KTB - SCB โดดเด่นสุด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราชกิจจาฯออกเกณฑ์ใหม่เรื่องซื้อหุ้นคืน โดยยกเลิกข้อบังคับที่ต้องรอ 6 เดือนก่อนเริ่ม buyback ใหม่ ราชกิจจานุเบกษามีการประกาศเกณฑ์ใหม่เรื่อง “โครงการซื้อหุ้นคืน” โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ มีผลวันที่ 14 พ.ย. 25 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1) บริษัทสามารถทำโครงการซื้อหุ้นคืนได้ต่อเนื่อง โดยยกเลิกกฎเดิมที่ต้อง รอ 6 เดือน หลังจบโครงการก่อน 2) ห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ซื้อขายช่วงซื้อหุ้นคืน โดยต้องมีมาตรการควบคุม/ป้องกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นใหญ่–ผู้บริหารซื้อขายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวระหว่าง buyback 3) เพิ่มระบบควบคุมภายใน (Internal Control) บริษัทต้องมีระบบที่ตรวจสอบได้ เช่น ผู้รับผิดชอบภายใน, ขั้นตอนการตรวจสอบ, เอกสารประกอบเพื่อ audit, วิธีประเมินราคาซื้อหุ้นคืน 4) ต้องเปิดเผยข้อมูลมากกว่าเดิม เช่น วิธีซื้อหุ้นคืน (ผ่านตลาด/โบรกเกอร์), มาตรการป้องกัน conflict of interest, รายงานสถานะโครงการเป็นระยะๆ, รายงานผลเมื่อซื้อเสร็จสิ้น 5) คณะกรรมการบริษัทต้องรับรองความโปร่งใส โดยต้องรับรองว่าการซื้อหุ้นคืนไม่มีประโยชน์ทับซ้อน และต้องรับรองว่าบริษัทมีระบบควบคุมที่ตรวจสอบได้จริง 
เรามองเป็น sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารที่มีการซื้อหุ้นคืนค่อนข้างเยอะในช่วงที่ผ่านมา (KBANK, KKP, TTB) โดยจากเกณฑ์ใหม่ถึงแม้ว่าจะเข้มงวดกับบริษัทและผู้ถือหุ้นรายใหญ่มากขึ้นจากการไม่สามารถซื้อ-ขายหุ้นได้ในช่วงที่อยู่ระหว่างโครงการซื้อหุ้นคืน แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่าการปลดล็อกเรื่องที่ต้องรอ 6 เดือน หลังจบโครงการก่อนถึงจะซื้อหุ้นคืนต่อได้ จะช่วยให้หลายบริษัทสามารถทำโครงการซื้อหุ้นคืนได้อย่างต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง TTB ที่มีโครงการซื้อหุ้นคืนถึง 3 ปี ซึ่งจะช่วยพยุงราคาหุ้นได้
ยังคงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก KTB, SCB เป็น Top pick เราให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.71x PBV (-1.00SD below 10-yr average PBV) และระดับ Dividend yield ของกลุ่มที่อยู่สูงถึง 7% จากค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยเรายังคงเลือก KTB (ซื้อ/เป้า 30.00 บาท) และ SCB (ซื้อ/เป้า 150.00 บาท) เป็น Top pick - KTB ราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท อิง 2026E PBV ที่ 0.85x (-0.25SD below 10-yr average PBV) จากแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตได้ดี ประกอบกับกำลังจะโครงการซื้อหุ้นคืนเร็วๆนี้ และมี Asset Quality ที่แข็งแกร่งจากการเน้นปล่อยสินเชื่อภาครัฐ ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและรองรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ รวมถึง KTB มี Dividend yield สูงราว 7% นอกจากนี้ยังมี Coverage ratio ที่ยังอยู่ในระดับสูงถึง 207% ด้าน valuation ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับต่ำเพียง PBV ที่ 0.83x (-0.25SD below 10-yr average PBV) - SCB ราคาเป้าหมายที่ 150.00 บาท อิง 2026E PBV ที่ 1.00x (-0.75SD below 10-yr average PBV) จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2025E ที่เติบโตได้โดดเด่น และมีเงินปันผลที่สูงที่สุดในกลุ่มที่ราว 8% ประกอบกับแนวโน้ม NPL มีการปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน 
|