KTC ตั้งเป้าปี 69 กำไรดีกว่าปีนี้ 68 คุม NPL ไม่ให้เกิน 2% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรโต 5% และ พอร์ตลูกหนี้ KTC PROUD กับ พี่เบิ้ม หวังโต 2% รับปีนี้ผลงานพลาดเป้าหลายกลุ่ม แต่หวัง Q4/68 เติบโต เหตุเข้าสู่ไฮซีซั่น นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า เป้าหมายปี 2569 บริษัทให้ความสำคัญกับกำไรสุทธิที่ตั้งเป้าเติบโตมากกว่าปี 68 ส่วนคุณภาพของพอร์ต(NPL) จะควบคุมไม่ให้เกิน 2% ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อรวมตั้งเป้าเติบโต 1-2% และ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 5% และ พอร์ตลูกหนี้ KTC PROUD รวมกับ พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ตั้งเป้าเติบโต 2% โดยการที่บริษัทตั้งเป้าการเติบโตในระดับต่ำ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่หากเศรษฐกิจเติบโตมากกว่าที่คาด บริษัทก็พร้อมที่จะสร้างการเติบโตให้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ได้ "เป้าหมายยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 5% ถือว่ายากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่เราก็ไม่อยากเน้นโตมากๆ เห็นได้จากปีนี้เราตั้งเป้าเติบโต 10% แต่คาดว่าจบปีนี้น่าจะทำได้แค่ 4% ยอมรับว่าเสียดายที่ทำไม่ถึงเป้าหมายที่คาดไว้"นางพิทยา กล่าว ในขณะที่ต้นทุนของเงินทุน(Cost of fund) ปี 2569 คาดจะลดลงกว่าปี 2568 ที่อยู่ 2.9% โดยบริษัทมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดประมาณ 12,330 ล้านบาท และ เงินกู้ KTB ประมาณ 3,500 ล้านบาท รวม 15,830 ล้านบาท ซึ่งหุ้นกู้ และ เงินกู้ดังกล่าวมีต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 3.4% โดยต้นทุนหุ้นกู้ชุดใหม่ที่จะออกมาเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ชุดเดิมจะมีต้นทุนที่น้อยกว่า 3.4% ประมาณ 15-20 bps 
สำหรับปี 2568 เป้าหมายที่วางไว้ และ คาดว่าจะทำได้ ประกอบด้วย กำไรสุทธิที่ตั้งไว้มากกว่า 7,437 ล้านบาท โดย 9 เดือนทำได้แล้ว 5,707 ล้านบาท และ NPL ที่คาดไม่เกิน 2% ซึ่ง 9 เดือนทำได้แล้ว 1.85% ส่วนเป้าหมายที่คาดว่าจะไม่สามารถทำได้ ประกอบด้วย พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อรวม ตั้งเป้าไว้ที่ 4-5% แต่ 9 เดือนทำได้ 0.7% , ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร ตั้งเป้าไว้ที่ 10% แต่ 9 เดือนทำได้ 3.8% , พอร์ตลูกหนี้ KTC PROUD ตั้งเป้าไว้ที่ 3% แต่ 9 เดือนทำได้ 0.8% และ สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ตั้งเป้าไว้ที่ 3,000 ล้านบาท แต่ 9 เดือนทำได้ 1,650 ล้านบาท "ไตรมาส 4 เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ ทั้งบัตรเครดิต และ สินเชื่อบุคคล ซึ่งเดือนพ.ย. เราเห็นยอดการใช้จ่ายในส่วนของร้านอาหาร โดยเฉพาะผ่านโครงการเที่ยวดีมีคืน ส่วนของโรงแรมยังไม่เห็นตัวเลขที่ชัดเจน ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคล เราเห็นการเบิกเงินสดมากขึ้นมาตั้งแต่เดือนต.ค.แล้ว และ โดยปกติเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ก็มีการเติบโตที่ดีมาโดยตลอดเช่นกัน"นางพิทยา กล่าว ทางด้านธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิตนั้น หลังจากที่บริษัทได้รับใบอนุญาตแล้วทำให้สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยและประกันชีวิตได้ โดยหมวดประกันเป็นอันดับ 1 ของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตประมาณ 10% ของพอร์ต ดังนั้นการเป็นนายหน้าขายประกันจะช่วยให้บริษัทมี ecosystem ครบวงจรมากขึ้น ส่วนกรณีที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาตรการ โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” นั้น ในส่วนของ KTC ถือว่าเป็นบริษัทลูกของ ธนาคารกรุงไทย(KTB) โดยเข้าเงื่อนไขของเฟสแรก แต่บริษัทยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ประกอบกับ ลูกหนี้ที่มีสินเชื่อกับหลายสถาบันการเงิน และ เมื่อรวมหนี้อาจจะมากกว่า 100,000 บาท ซึ่งไม่ได้เข้าเงื่อนไข เพราะฉะนั้น จะต้องรอรายละเอียด และ ความชัดเจนจาก NCB และ ธปท. ก่อนที่จะเริ่มใช้ 1 ม.ค. 69 |