โบนัสของพนักงานวอลล์สตรีทปีนี้ มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งหลังของปียังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม หลังบรรดาธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ รับอานิสงส์จากราคาหุ้นที่พุ่งแรงและการกลับมาของกิจกรรมควบรวมซื้อขาย (dealmaking) หลังเผชิญภาวะซบเซามาอย่างยาวนาน
รายงานประจำปีของโธมัส ดีนาโปลี ผู้ตรวจเงินแผ่นดินรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า บริษัทสมาชิกตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) จำนวน 130 แห่ง มีกำไรรวม 3.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 และหากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี จะทำให้กำไรแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านค่าตอบแทนของบริษัทในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน บ่งชี้ว่าโบนัสปลายปีอาจขยายตัวต่อ หลังจากปีที่แล้ว เฉลี่ยโบนัสต่อคนแตะระดับสูงสุดเป็นสถิติอยู่ที่ 244,700 ดอลลาร์สหรัฐ
ดีนาโปลีระบุว่า กำไรของภาคธนาคาร จะช่วยเพิ่มรายได้ภาษีให้รัฐนิวยอร์ก ซึ่งจำเป็นต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ พร้อมระบุว่า “แม้ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ดูเหมือนว่าวอลล์สตรีทยังมีแนวโน้มปีที่แข็งแกร่งอีกปีหนึ่ง”

ในปีนี้ การซื้อขายของธนาคารวอลล์สตรีทได้รับอานิสงส์จาก ความผันผวนของตลาด ที่เกิดจากภาษีนำเข้า (tariffs) และแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยในไตรมาส 3 ธนาคารรายใหญ่ทั้งมอร์แกน สแตนลีย์, เจพีมอร์แกน เชส, แบงก์ออฟอเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์ และเวลส์ ฟาร์โก มียอดรายได้จากการซื้อขายรวม 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อย 5 ปี
รายงานฉบับล่าสุดนี้ เป็นการปรับประมาณการใหม่ หลังก่อนหน้านี้เคยคาดว่าภาวะเศรษฐกิจผันผวนและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ จะทำให้โบนัสปีนี้หดตัวลงราว 14% ซึ่งในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา บริษัทที่ปรึกษาด้านค่าตอบแทน Johnson Associates Inc. ก็ได้ปรับเพิ่มมุมมองต่อโบนัสวอลล์สตรีทเช่นกัน หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวในธุรกิจควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) นอกจากนี้ รายงานยังชี้ว่า รายได้ภาษีของนครนิวยอร์กจากอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นถึง 35.1% อยู่ที่ 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณล่าสุด ขณะที่ค่าเฉลี่ยรายได้ของแรงงานในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 7.3% เป็น 505,630 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแรงงานภาคเอกชนในเมืองถึง 5 เท่า
ทั้งนี้ กระแสความเหลื่อมล้ำทางรายได้ กลายเป็นประเด็นร้อนในรัฐนิวยอร์ก โดยโซห์ราน มัมดานี ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีจากพรรคเดโมแครต เสนอแนวทางช่วยลดค่าครองชีพของชนชั้นแรงงาน ผ่านการเก็บภาษีเพิ่มจากบริษัทและผู้มีรายได้สูง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าผู้มีรายได้สูงบางส่วนอาจย้ายถิ่นฐานออกจากเมือง
ที่มา Bloomberg 
|