ตลท. ผนึก ตลท.เปิดยุทธศาสตร์ “พลังคูณสอง” ยกระดับผู้ประกอบการไทย-ต่างชาติ สู่เวทีทุนโลก เชิญ 5 บริษัทเข้าหารือ IPO นำร่องดึงกลุ่มอุตฯเทคโนโลยีขั้นสูง - อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เสริมแกร่งเศรษฐกิจใหม่ของไทย ฟาก ตลท.ปรับเกณฑ์เปิดทางธุรกิจ New Economy เข้าระดมทุน แม้ยังไม่มีกำไร หวังเพิ่มโอกาสและความยั่งยืนของตลาดทุนไทย นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า BOI ได้เริ่มเชิญชวนผู้ประกอบการจำนวน 5 บริษัท เข้าหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อรับฟังข้อมูลและแนวทางการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) โดยความร่วมมือระหว่าง BOI และตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็น “พลังคูณสอง” ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติให้สามารถขยายธุรกิจและแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจใหม่ ผ่านการผสานสิทธิประโยชน์จาก BOI เข้ากับเครื่องมือทางการเงินของตลาดทุนไทย BOI พยายามเร่งให้เกิดการลงทุน โดยมีบริษัทที่ยื่นขอและได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้วจำนวน 70 โครงการ มูลค่าการลงทุน 3 แสนล้านบาท ให้เข้ามาลงทุนเร็วขึ้น เพื่อผลักดันเศรษฐกิจ 
สำหรับความร่วมมือในระยะเริ่มต้น จะมุ่งเน้น 2 ด้านหลัก ได้แก่
การดึงดูดบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 3 สาขา ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล ที่เข้ามาลงทุนและได้รับการส่งเสริมจาก BOI ให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระดมทุน ยกระดับธรรมาภิบาลของธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้ตลาดทุนไทย และเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยร่วมเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมอนาคต การส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนเดิมให้ลงทุนยกระดับการผลิตอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการ Smart and Sustainable Industry ของ BOI ร่วมกับโครงการ JUMP+ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยสู่การเติบโตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายของ BOI ในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ “เศรษฐกิจใหม่” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความยั่งยืนในระยะยาว นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งเสริมธุรกิจในอุตสาหกรรม New Economy ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเพิ่มคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนได้พิจารณาและใช้สิทธิประโยชน์จาก BOI ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมขับเคลื่อนประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการให้บริการและพิจารณาคำขอของสองหน่วยงานเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ BOI ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืนผ่านการส่งเสริมการลงทุนและกลไกของตลาดทุน ทั้งนี้ ธุรกิจ New Economy ตามนิยามเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์ Market Capitalization หมายถึงบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งอ้างอิงจากประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แก่ การเกษตรและอาหารขั้นสูง เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ การต่อยอดทางการแพทย์และสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ยานยนต์สมัยใหม่ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยตลท.อยู่ในช่วงศึกษาปรับเกณฑ์ที่เหมาะสม และทีมงานกำลังทบทวนเหตุผลที่ไม่มีผู้ใช้เกณฑ์ Fast Track แบบ Market Cap ที่ยังไม่ถูกใช้งาน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างทบทวนกฏเกณฑ์ดังกล่าวให้มีความทันสมัยเทียบเคียงได้กับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีพันธกิจในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อธุรกิจให้เข้าถึงแหล่งระดมทุน และสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนโดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการปรับปรุงเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ New Economy ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ผ่านเกณฑ์พิจารณา Market Capitalization เพื่อให้กิจการที่ลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม ซึ่งยังไม่มีผลกำไรสามารถเข้าจดทะเบียนได้ ส่วนภาวะตลาดหุ้นช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาทรงตัว ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐาน และเศรษฐกิจ ต้องคัดเลือกหุ้นรายตัว และมีความหวังจากโครงการมาตรการอย่าง Jump+ เป้าหมายคือทำให้ผู้ประกอบการกล้าลงทุนและเติบโต เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนและเสริมศักยภาพเศรษฐกิจไทย 
|