FETCO มองตัวเลขส่งเสริมการลงทุน BOI คือข่าวดีแห่งปีของเศรษฐกิจไทย หลัง 9 เดือน มูลค่าการลงทุนพุ่งกว่า 94% จากปีก่อน คาดสิ้นปีแตะ 1.7-1.8 ล้านล้านบาท ชี้นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจีนแห่ตั้งฐานผลิต EV ดาต้าเซ็นเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ในไทย หนุนเศรษฐกิจไทยกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง พร้อมหนุนรัฐเร่งลงทุนอนาคตผ่าน BOI และเปิดทางบริษัทที่ได้รับสิทธิ BOI เข้าตลาดหุ้น ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า หากถามถึงข่าวดีของประเทศไทยในปีนี้ คงต้องยกให้กับตัวเลขการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งเติบโตโดดเด่นที่สุดในรอบหลายปี ปกติไทยจะมีเงินลงทุนใหม่ปีละประมาณ 5 แสนล้านบาท แต่ปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.13 ล้านล้านบาท และปีนี้ในช่วง 9 เดือน ก็ยังเติบโตต่อเนื่องกว่า 94% มีแนวโน้มว่าทั้งปีอาจแตะระดับ 1.7-1.8 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นข่าวดีมากสำหรับเศรษฐกิจไทย ขณะที่เงินลงทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งต่างจากนักลงทุนในตลาดหุ้น เพราะนักลงทุน FDI มักลงทุนระยะยาวเมื่อเลือกประเทศไทย จะอยู่กับเรานาน 20-30 ปี ไม่ใช่แค่เข้ามาแล้วก็ออกไป ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ดาต้าเซ็นเตอร์ และเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนที่เข้ามาจัดตั้งฐานการผลิตในไทยจำนวนมาก ขณะเดียวกันกลุ่ม เซมิคอนดักเตอร์ ก็เริ่มมีการลงทุนครบห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งถือเป็น New S-Curve ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ตอนนี้ไทยกลับมาฮ็อตอีกครั้ง จากช่วงก่อนที่เวลาไปเจอนักลงทุน เขาไม่สนใจเราเลย แต่ตอนนี้กลับมาสนใจเราอีกครั้ง ปัจจุบันไทยถือเป็น จุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในอาเซียน ที่นักลงทุนจีนเลือกเข้ามาตั้งฐานการผลิต ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อเศรษฐกิจระยะยาว อย่างไรก็ตาม เสนอว่า รัฐบาลควรเร่งสนับสนุนการทำงานของ BOI เพิ่มขึ้น แม้ภาครัฐจะเผชิญข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือการคลัง แต่จำเป็นต้องลงทุนเพื่ออนาคต โดยเฉพาะ BOI ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการดึงดูดการลงทุนระยะยาว คิดว่าเราควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ภาคตลาดทุนก็มีการขับเคลื่อนเพื่อเอื้อต่อการเติบโต โดยตลาดหลักทรัพย์ อยู่ระหว่างปรับเกณฑ์ให้ บริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจที่มีศักยภาพทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่เข้ามาระดมทุนในตลาดไทยมากขึ้น 
|