PTG เผยกำไรสุทธิ Q3/68 ที่ 211 ลบ.โต 185% YoY จากการขยายตัวธุรกิจ Non-Oil ส่วนกลุ่มน้ำมันอัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตรดีขึ้น โชว์ "กาแฟพันธุ์ไทย" รายได้ทะยาน 163% ขยายสาขาเป็น 1,885 แห่ง ยอดขายสาขาเดิมโตแรง 40–50% บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 68 มีกำไรสุทธิ 211 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 185.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ลดลง 32.5% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามฤดูกาลการใช้น้ำมัน ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 192.2% YoY แรงหนุนหลักมาจากการเติบโตของกำไรขั้นต้นและสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Oil ที่สูงขึ้น รวมถึงการบริหารอัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตรในธุรกิจน้ำมัน (Oil) ได้มีประสิทธิภาพขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ดีขึ้น สำหรับงวด 9 เดือน ปี 68 มีกำไรสุทธิ 707.15 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 793.41 ล้านบาท 
ด้านรายได้รวมไตรมาสนี้ อยู่ที่ 53,706 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.3% YoY และ 4.9% QoQ ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ทรงตัวในระดับต่ำ ทำให้ราคาขายปลีกเฉลี่ยลดลง ส่วนปริมาณขายรวมอยู่ที่ 1,591 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 0.9% YoY แต่ลดลง 6.4% QoQ จากฤดูฝนที่ภาคเกษตรใช้น้ำมันลดลง ธุรกิจ Non-Oil ยังเป็นพระเอกของงบ โดยรายได้โต 41.8% YoY และ 8.8% QoQ นำโดยแบรนด์ " กาแฟพันธุ์ไทย" ที่ทำรายได้ 1,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 163% YoY จากการขยายสาขาเป็น 1,885 สาขา และยอดขายสาขาเดิมเติบโตโดดเด่น 40–50% สะท้อนพลังแบรนด์ไทยที่ยังไปได้ดีแม้เศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทมีรายได้จากกำไรขั้นต้น (Gross Profit) รวม 4,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% YoY และ 2% QoQ โดยธุรกิจ Non-Oil มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นสูงถึง 39.3% ขณะที่ธุรกิจ Oil ฟื้นตัวจากการบริหารกองทุนน้ำมันอย่างเหมาะสม หนุนมาร์จิ้นต่อลิตรดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) อยู่ที่ 4,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.3% YoY ตามการขยายสาขาและกิจกรรมการตลาด รวมถึงต้นทุนบุคลากรและค่าเสื่อมราคาที่ปรับตัวขึ้นจากการเติบโตของธุรกิจ ในส่วนของกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า อยู่ที่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% YoY โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของ MDA และ TPB แต่ลดลง QoQ จาก PPPGC ที่ได้รับผลกระทบตามฤดูกาลน้ำมันลดลง ส่งผลต่อความต้องการใช้ไบโอดีเซล (B100) ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 1,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% YoY แม้ลดลงเล็กน้อย 2.7% จากไตรมาสก่อนหน้า 
|