ตลท. รับ "บมจ. มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) (MRDIYT)" เริ่มซื้อขายใน SET ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ชูผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ตั้งเป้าขยายสาขาครบ 1,500 สาขาภายใน 3 ปี เล็งนำเงินระดมทุน 5,633 ล้านบาท ไปใช้ขยายสาขา พัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท นายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์ฯยินดีต้อนรับ บมจ.มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ โดยใช้ชื่อย่อ "MRDIYT" ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ โดยบริษัทระดมทุนเพื่อเสริมศักยภาพในการเพิ่มสาขา การพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ และการกระจายสินค้า ซึ่งสนับสนุนแผนธุรกิจที่จะขยายสาขาให้ครบ 1,500 สาขาภายใน 3 ปี

MRDIYT ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้แบรนด์ "MR. D.I.Y." ที่มีสาขามากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย เริ่มดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 59 ปัจจุบันมีร้านค้า 1,027 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ครบทุกสิ่งในทุกวัน ด้วยราคาถูกคุ้มเสมอตามพันธกิจ "Always Low Prices" ด้วยการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง และสินค้าของบุคคลภายนอก บริษัทมีสินค้าหลากหลายกว่า 16,000 รายการ ครอบคลุม 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์แต่งบ้าน อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่น และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ MRDIYT กล่าวว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ที่จะช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์การเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้านในไทย การระดมทุนครั้งนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท รวมถึงโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและความทุ่มเทของทีมงาน บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย โดย MRDIYT มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 3,008 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนไม่เกิน 655 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัท และพนักงานของบริษัท ผู้ลงทุนในประเทศ และผู้ลงทุนต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 20-29 ต.ค.68 ในราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 8.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 5,633 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 51,747 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 23.09 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 67 ถึงไตรมาส 2 ของปี 68) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.36 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้น นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO และหลังการขายหุ้นสามัญเดิมในวันแรก ได้แก่ 1.กลุ่ม Mr. Tan Yu Yeh และ Mr. Tan Yu Wei ถือหุ้น 34.23%, 2.บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. จำกัด ถือหุ้น 25.09% และ 3.กลุ่มนายจอมพงษ์และนางสาวฐิตานันท์ ถือหุ้น 18.99% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมหลังหักสำรองต่างๆทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆเพื่อประโยชน์ของกิจการและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก 
|