BAM เผยกำไรไตรมาส 3/68 ที่ 184 ลบ. ลดลง 7.8% ด้านผลเรียกเก็บอยู่ที่ 3,649 ลบ. ส่วน 9 เดือน 1,695 ลบ.โต 57% มั่นใจ Q4/68 ผลเรียกเก็บจะเติบโตตามซีซั่น แย้มโครงการ NPA Partnership คาดชัดเจน Q1/69 บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/68 จำนวน 184 ล้านบาท ลดลง 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ มีผลเรียกเก็บจำนวน 3,649 ล้านบาท โดยรายได้จากการดำเนินงาน(หลังหักรายได้ดอกเบี้ยค้างรับ) ยังเติบโต 17.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯ มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 207.1% สาเหตุหลักจากการตั้งสำรองจากการซื้อทรัพย์หลักประกันของลูกหนี้จากกรมบังคับคดี และ การตั้งสำรองเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ มีผลเรียกเก็บงวด 9 เดือนรวม 13,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางด้านลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระยังสามารถชำระหนี้ได้ดี แต่การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้รายใหม่ ยังเผชิญแรงกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ยอดเงินรับจากลูกหนี้ NPLs รายใหม่ชะลอตัว และ เงินรับจากการขายทรัพย์ทอดตลาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่การขายทรัพย์ NPAs เริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะทรัพย์กลุ่มห้องชุดพักอาศัย (คอนโด) ที่มียอดจำหน่ายยูนิตเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ภาพรวมการขายทรัพย์มีราคาขายต่อราคาประเมินทรัพย์เฉลี่ยที่ 90.1% (ปี 67 ที่ 86.3%) ส่วนการซื้อขายหนี้ NPLs สถาบันการเงินยังคงนำ NPLs ออกมาขาย แต่มีปริมาณลดลงถึง 56.2% จากปีก่อน เป็นผลจากสถาบันการเงินและ บริษัทบริหารสินทรัพย์รอดูแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน และ แนวทางการอนุญาตจัดต้ังบริษัทร่วมทุน JV AMCs ซึ่งภาครัฐมีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงต้นของไตรมาส 4/68 ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือน บริษัทฯ ลงทุนซื้อ NPLs ภาระหนี้รวม 3,548 ล้านบาท ราคาซื้อเฉลี่ยคิดเป็น 28.2% ของราคาประเมิน (ปี 67 ที่ 35%) 
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงาน บริษัทฯ คาดว่า ในไตรมาส 4/68 ผลเรียกเก็บจะเติบโตตาม Seasonal ซึ่งบริษัทฯ จะเร่งดำเนินการติดตามหนี้เชิงรุกเพื่อให้ได้ข้อยุติกับลูกหนี้โดยเร็ว โดยนำเสนอเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่นสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ สำหรับการขายทรัพย์ NPA บริษัทฯ มีโครงการทรัพย์มหาชน ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นความต้องการในการซื้ออสังหาริมทรัพย์และ ช่วยลดภาระของผู้ซื้อทรัพย์ในการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการ NPA Partnership ที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developers) จะซื้อทรัพย์ Big Lot จากบริษัทฯ ไปพัฒนา ปรับปรุง และ ส่งต่อให้กับผู้สูนใจซื้อทรัพย์ ซึ่งคาดว่า จะเห็นผลการดำเนินงานที่ชัดเจนในไตรมาส 1/69 สำหรับในไตรมาส 3/68 บริษัทร่วมทุนทั้ง 2 แห่ง มีผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยบริษัทฯ บันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนรวมจำนวน 48 ล้านบาท สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ NPLs ของภาครัฐที่ปรากฏเป็นข่าว และ คาดว่าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมของท้ัง 2 โครงการออกมาในเดือนพฤศจิกายน 2568 1. การแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อยผ่านกลไกบริษัท บริหารสินทรัพย์น้ัน ซึ่งบริษัทฯ พร้อมผลักดัน บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคารออมสินกับบริษัทฯ ให้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ให้สามารถปิดจบหนี้ และ กลับมามีชีวิตทางการเงินใหม่ได้ 2. การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JV AMCs เพิ่มเติม ระหว่างสถาบันการเงิน และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียในระบบ ซึ่งในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ประกาศรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JV AMCs ดังกล่าว ซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ในการผลักดันสถาบันการเงิน และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ให้ร่วมกันช่วยเหลือลูกหนี้ให้พ้นวิกฤตทางการเงินอย่างเป็นระบบ 
|