
ในโลกของ Web2 ไม่มีใครไม่รู้จัก NVIDIA บริษัทที่ทำให้ GPU กลายเป็นหัวใจของยุค AI จริง ๆ ไม่ว่าคุณจะพูดถึง AI training, inference, LLM, rendering, robotics หรือ high-performance computing ทุกอย่างแทบจะวิ่งอยู่บนสถาปัตยกรรมของ NVIDIA ทั้งหมด จนตอนนี้พูดได้เลยว่าถ้าไม่มี NVIDIA โลกเทคโนโลยีปัจจุบันคงหน้าตาไม่เหมือนที่เราเห็นกันทุกวันนี้แน่ ๆ
ถ้าวันนี้ NVIDIA ครองบัลลังก์ของ Web2 ไปแล้ว คำถามต่อไปคือ
“ในโลก Web3 ที่จะเป็นยุค decentralized แบบเต็มตัว มีไอเดียอะไรที่สามารถครองตำแหน่งผู้ให้บริการ Decentralized AI Computing Power ได้หรือไม่?” …เพราะถ้าคิดให้ดี อะไรก็ตามที่เกิดใน Web2 วันหนึ่งก็สามารถถูกแปรรูปเข้ามาใน Web3 ได้ทั้งหมด ขอแค่แก่นของมันสามารถทำงานแบบ decentralized ได้ก็พอ Computing Company อย่าง NVIDIA หรือแม้แต่ Cloud Computing อย่าง AWS ในโลก Web3 เองก็ทำได้เช่นกัน
จุดเปลี่ยนทั้งหมดเริ่มจากวันที่ Ethereum ทำให้ Blockchain ไม่ใช่แค่ distributed ledger หรือเป็นเพียงฐานข้อมูลเท่านั้นอีกต่อไป แต่กลายเป็นพื้นที่ที่เราสามารถ deploy source code และ programmable ให้มันรันเองได้ ซึ่งนั่นก็คือ Smart Contract จริง ๆ แล้ว Smart Contract ก็เป็น Turing-complete ที่ทำงานได้แทบทุกอย่างอย่างที่โลก Web2 ปัจจุบันทำได้ ภาษา Solidity ที่เขียน Smart Contract ขึ้นนั้นจึงไม่ต่างอะไรจากภาษาโปรแกรมทั่วไป เช่น ภาษา C ที่เราคุ้นเคยกัน
เพราะ Blockchain ในขณะนี้เป็น “คอมพิวเตอร์กระจายศูนย์” ไปเสียแล้ว
ตามหลักของ Blockchain Trilemma การเพิ่มความเป็น Decentralized เข้าไปจะสูญเสีย Scalability แต่หากเราต้องการทำงานในแบบของ Computing Power นั้น Smart Contract สามารถเป็นตัวกลางในการจับ Node ต่าง ๆ มาช่วยประมวลผลในระบบ จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นใน model หรือ task ที่เป็น Distributed Task/System ได้
นี่แหละที่ทำให้ไอเดียเรื่อง “decentralized GPU network” ดูเป็นไปได้มากขึ้น เพราะถ้า Blockchain สามารถเป็นตัวกลางในการรับงาน กระจายงาน และจัดการผลลัพธ์ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการเอา Node จากทั่วโลกมาช่วยกันทำงานแบบ distributed system ซึ่งเหมาะกับงาน compute หนัก ๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะงานที่แยกเป็น task ย่อยได้ เช่น AI training หรือ rendering แบบที่เคยเป็นเรื่องของศูนย์กลางใหญ่ ๆ เท่านั้น
จริง ๆ แนวคิดนี้ไม่ได้เพิ่งเกิด ก่อนหน้านี้ช่วง 5–7 ปีก่อนก็มีแพลตฟอร์มอย่าง Golem หรือ aelf ที่พยายามทำ distributed computing มาก่อนแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นตลาดยังไม่ต้องการพลังประมวลผลระดับแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำให้โปรเจกต์เหล่านั้นยังไม่เกิดเป็นวงกว้าง
แต่ยุคนี้ความต้องการ GPU เพิ่มขึ้นจนเห็นได้ชัด จึงไม่แปลกที่ไอเดีย decentralized computing จะถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง แพลตฟอร์มรุ่นใหม่อย่าง Akash และ iExec พยายามสร้าง Sharing Economy ระหว่างคนที่ต้องการปล่อยกำลังประมวลผล กับคนที่ต้องการใช้พลังประมวลผล โดยให้ Smart Contract เป็นตัวกลางดูแลข้อตกลงและการจ่ายเงิน ส่วนงานประมวลผลจริงก็รันอยู่บนระบบ off-chain ของแพลตฟอร์มเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ภาพของ “Compute Power บน Web3” เริ่มเป็นรูปร่างขึ้นทีละน้อย
อนาคตของ Compute Power อาจไม่ได้ผูกอยู่กับศูนย์กลางอีกต่อไป แต่มันอาจเป็นพลังที่ทุกคนในเครือข่ายช่วยกันสร้างขึ้นมา ซึ่งถ้าแนวคิดนี้เดินหน้าต่อ…
โลก Web3 อาจได้เห็นผู้เล่นรายใหม่ที่ก้าวขึ้นมาเป็น “NVIDIA แห่งยุคกระจายศูนย์” ก็เป็นได้
บทความโดย : ชานน จรัสสุทธิกุล Co-Founder และ CEO ของ Forward Labs สตาร์ตอัปฟินเทคด้าน Blockchain และ CEO ของ INTNODE ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล