
ความลึกลับของ ‘พี่หญิง’ อัศวิณี ศรีสมบูรณานนท์ กรรมการผู้จัดการคนใหม่แห่ง บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (Orbix Trade) ได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราต้องนัดสัมภาษณ์ครั้งนี้
เพื่อค้นหาคำตอบว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการเดินทางครั้งใหม่ของ orbix ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้ “Orbix Group” กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย นี่คือบทสนทนาที่ถอดรหัสวิสัยทัศน์ของเธอ และเผยพิมพ์เขียวของการสร้างแพลตฟอร์มแห่งความเชื่อมั่นสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
ทำไม orbix ถึงใช้เวลากว่าเกือบปี เพื่อเฟ้นหาตัววาณิชธนากรหญิงมาคุมทัพ
ก่อนจะมานั่งในตำแหน่งแม่ทัพแห่ง orbix ‘พี่หญิง’ อัศวิณี สั่งสมประสบการณ์ในโลกการเงินดั้งเดิม (Traditional Finance) มาอย่างโชกโชนเกือบ 20 ปี ในฐานะวาณิชธนากร (Investment Banker) ที่สถาบันการเงินชั้นนำของไทยและต่างประเทศ
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังดีลใหญ่ของการเข้าซื้อกิจการ “สตางค์โปร” (Satang Pro) ของกลุ่ม KBank จนสำเร็จลุล่วง ถือเป็นดีลที่ปูทางให้กำเนิด orbix ในเวลาต่อมา เรียกได้ว่า “อัศวิณี” ผูกพันและเห็นภาพขององค์กรแห่งนี้มาตั้งแต่จุดเริ่มต้น
หลังจบดีล แม้เธอจะกลับไปโลดแล่นในสายงานวาณิชธนกิจ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความตั้งใจจริงขององค์กร ทำให้ orbix ใช้เวลาทาบทามเธอนานเกือบปี การทุ่มเทเวลาขนาดนี้สะท้อนให้เห็นว่า orbix ไม่ได้แค่ต้องการผู้บริหาร แต่กำลังมองหา “สถาปนิก” ที่เข้าใจพิมพ์เขียวของโลกการเงินที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์อย่างลึกซึ้ง และมีประสบการณ์ตรงในการก่อร่างสร้าง orbix มาตั้งแต่ต้น เพื่อมาพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตั้งอยู่บนความไว้วางใจระดับสถาบันการเงิน
ไม่ใช่แค่ศูนย์ซื้อขาย แต่คือ “แพลตฟอร์ม” ที่เชื่อมโลกการเงินเก่าและใหม่
เมื่อถามถึงจุดยืนและปรัชญาของ orbix พี่หญิงให้คำตอบที่ชัดเจนว่า orbix ไม่ได้โฟกัสเพียงด้านใดด้านหนึ่ง แต่คือการสร้าง “สมดุล” ระหว่างโลกการเงินดั้งเดิมและโลกคริปโทฯ โดยใช้ความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินเป็นรากฐาน (Bank-backed) เพื่อสร้าง “แพลตฟอร์ม” ที่เชื่อมโยงนักลงทุนจากทั้งสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน และสร้างความมั่นใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้งาน
เธอกล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านจากโลกการเงินแบบดั้งเดิมมาสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นไม่ยากมากนัก เพราะหลักการพื้นฐานหรือหัวใจสำคัญอยู่ที่ “การกำกับดูแล และการมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักลงทุน”
orbix อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง อีกทั้งอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคาร ซึ่งถือเป็น Regulated Entity ที่ได้รับความไว้วางใจ และมีโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารมาช่วยสนับสนุน orbix จึงไม่ได้เป็นผู้เล่นที่ “สุดโต่งไปทางดิจิทัล” ทั้งหมด แต่ต้องการสร้างความสมดุลระหว่างโลกเก่ากับโลกใหม่
มาตรฐานในการดำเนินธุรกิจของ orbix มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โดยใช้มาตรฐานด้านไอทีที่เรียกว่า Bank Grade หรือ Financial Institutional Grade เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ (Trust) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน
3 เสาหลักที่ orbix ใช้สร้างความเชื่อมั่นในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล
orbix เน้นนักลงทุนที่มีความสนใจ และเข้าใจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มวัยทำงานที่มีเงินเก็บ และต้องการอิสรภาพทางการเงิน
พร้อมด้วยการการันตีรางวัลระดับนานาชาติถึง 5 รางวัลในปี 2025 ซึ่งตอกย้ำถึงมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มไทยในระดับโลก ได้แก่ 1. Best in Digital Asset Trading Thailand 2025 จาก Business Award Magazine นิตยสารธุรกิจชั้นนำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2. Most Reliable Trading and Exchange Center for Digital Assets Thailand 2025 จาก World Business Outlook นิตยสารธุรกิจที่ระดับนานาชาติของสิงคโปร์ 3. Most Trusted Digital Asset Exchange Platform 2025 จาก APAC Insider สื่อชั้นนำจากประเทศอังกฤษ และ 4. Client Service Excellence Award 2025 จาก APAC Insider สื่อชั้นนำจากประเทศอังกฤษ และ 5. Best User Experience in Digital Trading Thailand 2025 จาก Brand Review Magazine สื่อและเว็บไซต์ข่าวธุรกิจชื่อดังของประเทศอังกฤษ
อนาคตคริปโทฯ ในประเทศไทย มุมมองของแม่ทัพ orbix
พี่หญิง มองว่าตลาดคริปโทฯ ในไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากกระแสโลก เช่น บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในอเมริกา อย่าง MicroStrategy ที่เข้ามาถือครอง Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์แห่งอนาคต
เธอเชื่อว่าเสน่ห์ของคริปโทฯ อยู่ที่เทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความโปร่งใส (Transparency), ความปลอดภัยสูง (Security), ลดต้นทุนและตัวกลาง (Cost Efficiency), ตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability), และ สร้างความน่าเชื่อถือในระบบดิจิทัล (Trust)
อย่างไรก็ตาม พี่หญิงเชื่อว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนในไทยนั้นขึ้นอยู่กับการหาจุดสมดุลที่เหมาะสมทางด้านกฎระเบียบ ซึ่งภาครัฐพยายามสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ผ่านการยกเว้นภาษีจากการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความท้าทายอยู่บ้าง เช่น การนิยามให้คริปโทฯ เป็น ‘สินทรัพย์’ (Asset) ไม่ใช่ ‘สกุลเงิน’ (Currency) ซึ่งจำกัดการใช้งานในรูปแบบการชำระเงิน
แต่โครงการอย่าง Phuket Sandbox ที่เปิดให้ทดลองใช้คริปโทฯ ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีและเป็นความหวังว่าในอนาคตจะมีการสร้างสมดุลที่เปิดกว้างและมั่นคงมากขึ้น
ด้านการแข่งขัน พี่หญิงยอมรับว่าตลาดคริปโทฯ ในไทยมีความดุเดือดมากขึ้นเพราะมีผู้เล่นทั้งในไทยและต่างชาติเข้ามา แต่ orbix ยังคงยืดหยัดในกลยุทธ์ Easy&Trustworthy ที่เข้าถึงง่าย ใช้งานง่าย และมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสถาบันการเงิน เธอแนะนำให้นักลงทุนไทยใช้ Exchange ที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศ เพราะการกำกับดูแลและการเก็บทรัพย์สินไว้ในประเทศมีความปลอดภัยมากกว่า หากมีปัญหาไม่คาดคิด (เช่น ถูกแฮ็ก) หน่วยงานกำกับดูแลจะสามารถดำเนินการได้ทันที
เมื่อ ‘Soft Skill’ ของผู้หญิงกลายเป็นความได้เปรียบในโลกคริปโทฯ
ในอุตสาหกรรมที่ภาพจำคือผู้ชายและโค้ดดิ้ง พี่หญิงกลับมองว่า “ความเป็นผู้หญิง” คือหนึ่งในความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุด เธอเชื่อว่าธรรมชาติของผู้หญิงมีความละเอียดอ่อน และความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) สูง ซึ่งเป็น Soft Skill สำคัญที่ช่วยให้สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง
สไตล์การบริหารงานของพี่หญิงมุ่งเน้นผลลัพธ์ และพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทีมงานเสมอ แต่ต้องมั่นใจว่าข้อเสนอนั้น “ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ”
สำหรับผู้หญิงรุ่นใหม่เธอฝากแนวคิดว่า ผู้หญิงควรมีความกล้าหาญในการสำรวจและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่างคริปโทฯ ซึ่งแม้จะเป็นพื้นที่ที่มีผู้หญิงน้อย แต่ยิ่งทำให้เรามีโอกาสสร้างความแตกต่าง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงคนอื่นได้
“โอกาสของผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้ คือการนำเสนอแนวคิดที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม ความท้าทายคือการสร้างความเชื่อมั่นในบทบาทผู้นำในอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยภาพจำ ผู้หญิงคือผู้ที่นำพาความละเอียดอ่อนและความเข้าใจลึกซึ้ง มาสร้างนวัตกรรมและความเชื่อมั่นในรูปแบบที่โลกยังไม่เคยเห็น”
บทสรุป: ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือการสร้างมาตรฐานใหม่
การเดินทางของ orbix ภายใต้การนำทัพของ ‘พี่หญิง’ อัศวิณี ศรีสมบูรณานนท์ ชัดเจนว่าไม่ใช่การลงสนามเพื่อแข่งขัน “ด้วยโปรโมชันหรือการตลาดที่ร้อนแรง” แต่คือการยืนหยัดบนหลักการที่หนักแน่นของ “ความน่าเชื่อถือ” “ความปลอดภัย” และ “ความเข้าใจในลูกค้า”
คำถามอาจไม่ใช่ว่าโลกทั้งสองจะรวมกันหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้สร้าง “แพลตฟอร์ม” ที่ใช้งานง่าย น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าที่สุด เพื่อให้นักลงทุนก้าวข้ามไปสู่โลกใหม่ได้ และสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ
“orbix เลือกที่จะสร้างความแตกต่าง ด้วยการเข้าใจคนไทยอย่างแท้จริง ทั้งภาษาที่ใช้ การบริการลูกค้า และนโยบายความปลอดภัยที่อิงตามกฎหมายไทย เราไม่ได้แค่ทำให้บริการใช้งานง่าย แต่ต้อง ปลอดภัย โปร่งใส และน่าเชื่อถือ บนพื้นฐาน Bank Grade Security” กรรมการผู้จัดการ กล่าวปิดท้าย
คำเตือน : คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้