Nexperia ผู้ผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ เรียกร้องให้หน่วยธุรกิจในจีนฟื้นฟูการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทาน โดยออกจดหมายเปิดผนึกเตือนความเสี่ยงที่การผลิตในหลายอุตสาหกรรมอาจต้องหยุดชะงัก หลังลูกค้ารายงานเข้ามาว่า ปัญหาดังกล่าวกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

สำนักงานของ Nexperia ในเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้เผยแพร่ออกไป หลังจากที่พยายามสื่อสารผ่านช่องทางปกติโดยตรงหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบสนองอย่างจริงจัง ท่ามกลางมหากาพย์ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างบริษัทแม่ในเนเธอร์แลนด์และบริษัท Nexperia China ซึ่งเป็นสาขาในจีน ศึกภายในดังกล่าวคุกคามห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ทั่วโลก ท่ามกลางความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นระหว่างเนเธอร์แลนด์และจีนในประเด็นการถ่ายโอนเทคโนโลยี

ทั้งนี้ Nexperia เป็นผู้ผลิตชิปพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นทรานซิสเตอร์ ไดโอด และส่วนประกอบสำหรับควบคุมพลังงาน ซึ่งผลิตในยุโรป ก่อนส่งไปประกอบและทดสอบในจีน เพื่อส่งออกไปยังลูกค้าในยุโรปและตลาดอื่น ๆ แม้ชิปเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อนและราคาไม่แพง แต่จำเป็นต้องใช้ในอุปกรณ์เกือบทุกชนิดที่ใช้ไฟฟ้า รวมถึงรถยนต์ โดยชิปเหล่านี้ใช้สำหรับเชื่อมต่อแบตเตอรี่กับมอเตอร์, ระบบไฟและเซ็นเซอร์, ระบบเบรก, อุปกรณ์ควบคุมถุงลมนิรภัย, ระบบความบันเทิง และกระจกไฟฟ้า

เนื้อความตอนหนึ่งในจดหมายระบุว่า "เรารู้สึกยินดีที่ทางการจีนให้คำมั่นเพื่อเปิดทางให้สามารถกลับมาส่งออกชิปจากโรงงานของ Nexperia ในจีน รวมถึงโรงงานของซับคอนแทรคได้อีกครั้ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเราป้อนเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่อง ทว่า ลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมยังคงรายงานกำลังการผลิตที่อาจหยุดชะงักในอีกไม่ช้า ซึ่งเราไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปได้"

บริษัทในเนเธอร์แลนด์ยังเรียกร้องให้ผู้บริหารของสาขาในจีนดำเนินการเพื่อฟื้นฟูการจัดส่งตามระบบที่วางไว้โดยไม่รอช้า

เหตุใดสถานการณ์จึงบานปลาย

สถานการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนก.ย. หลังจากที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้นำกฎหมายสมัยสงครามเย็นมาใช้ เพื่อเข้าควบคุม Nexperia ความเคลื่อนไหวที่ผิดไปจากปกตินี้ มีรายงานว่าเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ยกเรื่องความกังวลด้านความมั่นคงขึ้นมา ส่งผลให้จีนออกมาตอบโต้ด้วยการสกัดกั้นไม่ให้มีการส่งออกชิปไปต่างประเทศ ผลกระทบจึงตกไปอยู่ที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับการขาดแคลนชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชิปรายนี้

เพื่อบรรเทาสถานการณ์ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ระงับการแทรกแซงของรัฐภายใน Nexperia เป็นการชั่วคราวหลังจากเจรจากับจีน ซึ่ง ณ เวลานั้น มีการคาดการณ์ว่า อาจนำไปสู่การยุติข้อพิพาทและปูทางไปสู่การฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานตามปกติได้

ด้านนักวิเคราะห์ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของธนาคาร ING ประเมินสถานการณ์ว่า ยังไม่ชัดเจนว่าจะกินเวลานานเท่าใด แม้ว่ามาตรการที่เคยใช้เพื่อควบคุมบริษัทลูกของ Nexperia ในเนเธอร์แลนด์จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังคงต้องมีการเจรจาอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างองค์กรและความสัมพันธ์กับ Wingtech ซึ่งเป็นบริษัทแม่

เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องแค่เพียงการจัดหาชิปสำเร็จรูปเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการจัดหาแผ่นเวเฟอร์จากยุโรปไปยังจีนด้วย บริษัทต่าง ๆ เช่น Nissan ของญี่ปุ่น และ Bosch ผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ของเยอรมันเอง ก็อยู่ในกลุ่มบริษัทที่ออกมาเตือนถึงการขาดแคลนชิปที่กำลังจะเกิดขึ้น

ที่มา CNBC