รัฐบาลจีน มีคำสั่งให้สายการบินของประเทศลดจำนวนเที่ยวบินไปญี่ปุ่นไปจนถึงเดือนมี.ค. 2026 ตามข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตรียมพร้อมสำหรับกรณีข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ สืบเนื่องจากการแสดงความเห็นของซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรี คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง และผู้นำญี่ปุ่น หลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แสดงความเห็นเกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้จีนเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า มีการขอให้สายการบินดำเนินการปรับลดเที่ยวบินไปก่อนในระยะนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามพัฒนาการทางการทูต โดยในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านตารางการบินระหว่างฤดูหนาวและฤดูร้อนของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก 
ทั้งนี้ ปริมาณการเดินทางจากจีนไปยังญี่ปุ่นลดลงไปแล้ว หลังจากจีนออกคำเตือนให้พลเมืองระมัดระวังการเดินทาง การออกคำสั่งถึงสายการบินยังเป็นการยืนยันว่า จะมีการลดเที่ยวบินยาวไปจนถึงช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายในต่างประเทศมากที่สุด โดยสายการบินได้รับอนุญาตให้ใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจว่าจะยกเลิกเที่ยวบินใดและจะลดลงจำนวนเท่าใด ข้อมูลจาก China Trading Desk ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดที่เชี่ยวชาญด้านข้อมูลการเดินทางของจีน ระบุว่า การยกเลิกจองเที่ยวบินของนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะเดินทาง อาจขยายไปจนถึงเดือนเม.ย. 2026 ขณะที่จำนวนเที่ยวบินจากจีนไปญี่ปุ่นที่มีกำหนดเดินทางในเดือนธ.ค. ลดลงจากเดือนต.ค. กว่า 20% โดย Subramania Bhatt ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร China Trading Desk คาดว่า จะมีการยกเลิกเส้นทางมากกว่า 50% ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีการยกเลิกเส้นทางจากเมืองต่างๆ ของจีน อย่างน้อย 12 เส้นทาง รวมถึงเซี่ยงไฮ้ กวางโจว และหนานจิง ไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมของญี่ปุ่น ขณะที่การยกเลิกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ China Trading Desk ยังประเมินว่า ญี่ปุ่นอาจสูญรายได้จากนักท่องเที่ยวมากถึง 1,200 ล้านดอลลาร์ระหว่างนี้ไปจนถึงสิ้นปี เนื่องจากการยกเลิกการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน หากการยกเลิกยังคงดำเนินต่อไปในอัตรานี้ตลอดปี 2026 ความเสียหายสะสมอาจสูงถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มา Bloomberg 
|