ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแดนบวกในวันศุกร์ (21 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 493.15 จุด หลังนักลงทุนปรับเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายทางการเงินประจำเดือน ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักทั้ง 3 ยังคงปิดแดนลบในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับสูง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 46,245.41 จุด เพิ่มขึ้น 493.15 จุด หรือ 1.08% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,602.99 จุด เพิ่มขึ้น 64.23 จุด หรือ 0.98% ขณะที่ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 22,273.08 จุด เพิ่มขึ้น 195.04 จุด หรือ 0.88% อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 1.9% ดัชนี S&P 500 ลดลงราว 2% และดัชนีแนสแดค ลดลง 2.7% โดยดัชนีแนสแดค ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นช่วงขาลงติดต่อกันยาวนานที่สุด นับตั้งแต่เดือน มี.ค. และขณะนี้ปรับตัวลดลงแล้ว 7% จากระดับสูงสุดในเดือน ต.ค. ขณะที่ดัชนี Russell 2000 ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงอ่อนตัวต่อเนื่องยาวนานที่สุด นับตั้งแต่เดือน มี.ค. ส่วนหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ต่างปิดในแดนบวกทั้งหมด 
หุ้น Nvidia ปรับตัวเพิ่มขึ้นชั่วคราว ในช่วงระหว่างการซื้อขายของวัน หลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาอนุญาตให้บริษัทกลับมาขายชิป AI รุ่น H200 ให้จีนได้อีกครั้ง แม้สุดท้ายราคาหุ้นจะปิดลดลง 1% แต่ยังดีกว่าระดับต่ำสุดของวัน ทั้งนี้ หุ้น Nvidia ปรับตัวลดลง 5.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่แข็งแกร่งเกินคาดและส่งสัญญาณแนวโน้มรายได้ไตรมาส 4 ในเชิงบวก จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และกรรมการผู้มีสิทธิ์โหวตในคณะกรรมการ FOMC ระบุว่า เฟดสามารถปรับลดดอกเบี้ยในระยะใกล้ได้ โดยไม่ทำให้เป้าหมายเงินเฟ้อเสี่ยง ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาดว่า การลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. มีโอกาสมากขึ้น แม้เจ้าหน้าที่เฟดบางรายยังคงย้ำว่า ควรตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน ขณะที่ซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ระบุว่า นโยบายการเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว สื่อถึงความลังเลต่อการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ทำให้โบรกเกอร์ต่างชาติ ยังคงแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ว่าการประชุมเดือน ธ.ค. เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่ เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดให้น้ำหนักถึงเกือบ 72% ต่อโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 39.1% เมื่อวันก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยนี้ถือเป็นแรงหนุนสำคัญในวันศุกร์ ตลาดหุ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ตกอยู่ในภาวะผันผวนสูง สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่แพงขึ้นมาก จากแผนการใช้จ่ายด้าน AI ที่ทะเยอทะยาน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมเฟดในเดือน ธ.ค. ข้อมูลเศรษฐกิจ ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าอัตราการว่างงานในเดือนก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ ซึ่งรายงานนี้ ถูกเลื่อนเผยแพร่เพราะการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้านความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวที่เคลื่อนไหวอย่างโดดเด่น พบว่าหุ้น Eli Lilly ปิดเพิ่มขึ้น 1.6% หลังระหว่างวัน มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ขณะที่หุ้น Alphabet ปิดบวก 3.5% หุ้น Apple เพิ่มขึ้น 2% และ Meta Platforms ปิดเพิ่มขึ้น 0.9% ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญต่อภาพรวมตลาดในวันศุกร์ ที่มา Reuters 
|