ไมโครซอฟท์ (Microsoft Corp.) เดินหน้าใช้กลยุทธ์ใหม่ เพื่อหวังดึงดูดผู้ใช้งาน ให้ดาวน์โหลดแชตบอต “Copilot” มากขึ้น ด้วยการจับมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของสหรัฐฯ เพื่อส่งสารถึงกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นว่า “ผู้ช่วย AI ของเราเท่ไม่แพ้ ChatGPT”
บริษัทเปิดเผยว่า Copilot มีผู้ใช้งานประจำกว่า 150 ล้านคนต่อเดือน แต่ยังตามหลังคู่แข่งสำคัญอย่าง ChatGPT ของ OpenAI ที่มีผู้ใช้งานถึง 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ และ Gemini ของ Google ที่มี 650 ล้านคนต่อเดือน แม้ไมโครซอฟท์จะครองความได้เปรียบในกลุ่มลูกค้าองค์กร จากประวัติการขายซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์มายาวนาน แต่ยังเจาะตลาดผู้บริโภคทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 30 ปีได้ไม่มากนัก
ยูซุฟ เมห์ดี (Yusuf Mehdi) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของไมโครซอฟท์กล่าวว่า บริษัทถือเป็นแบรนด์ผู้ท้าชิงในตลาดนี้ และหวังว่าอินฟลูเอนเซอร์จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ให้เลือก Copilot เป็นแชตบอตหลักของตน พร้อมใช้ความนิยมของพวกเขา เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง โดยยอมรับว่าแคมเปญผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ให้ผลคุ้มค่ากว่าสื่อแบบดั้งเดิม แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผลลัพธ์หรือจำนวนค่าตอบแทน
ศาสตราจารย์ Anindya Ghose จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กมองว่า ไมโครซอฟท์เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์สายไลฟ์สไตล์ ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่เข้าใจได้ว่า พวกเขามีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น แม้ความน่าเชื่อถือเชิงเทคโนโลยีอาจไม่สูงนัก พร้อมเสริมว่าถ้าแคมเปญนี้ไม่ได้ผล ไมโครซอฟท์คงไม่เดินหน้าต่อ ดังนั้นผมมั่นใจว่ามันได้ผลในระดับหนึ่ง และคาดว่าไมโครซอฟท์อาจทดลองใช้ AI Influencer ในระยะต่อไป

มุสตาฟา ซูเลย์มาน (Mustafa Suleyman) หัวหน้าฝ่าย AI สำหรับผู้บริโภคของไมโครซอฟท์ระบุว่าแนวคิดการใช้คนดังที่ไม่ใช่สายเทคโนโลยีตรง ๆ สอดคล้องกับแคมเปญของบริษัทที่ต้องการผลักดัน Copilot ให้เป็น “ผู้ช่วยส่วนตัวในชีวิตประจำวัน” มากกว่าจะเป็นเครื่องมือทำงานเท่านั้น และ Copilot คือเพื่อนร่วมคิดและช่วยให้ “คุณวางแผนและสร้างฝันได้ดีขึ้น” โดยหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์คนสำคัญคือ “Alix Earle” ดาวดังวัย 24 ปี ผู้มีผู้ติดตามรวมกว่า 12.6 ล้านคนบน Instagram และ TikTok ซึ่งโด่งดังจากคลิป “Get Ready With Me”
ทั้งนี้ แม้ Copilot จะคุ้นหูในหมู่พนักงานออฟฟิศมากกว่า เพราะมักใช้จัดการข้อมูล สรุปการประชุม หรือค้นหาเนื้อหาแทนการใช้ Google แต่แคมเปญนี้มุ่งเน้นการสื่อสารว่า “Copilot คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง”
อย่างไรก็ตาม คำถามใหญ่คือ แคมเปญนี้จะช่วยปิดช่องว่างระหว่าง Copilot กับ ChatGPT ได้จริงหรือไม่ ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Gartner อย่างเจสัน หว่อง (Jason Wong) ยังแสดงความสงสัยว่า “คงเป็นเรื่องยากที่ไมโครซอฟท์จะก้าวข้ามฐานผู้ใช้ของ ChatGPT ได้ในตอนนี้”
ที่มา Bloomberg 
|