Amazon.com ออกหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ท่ามกลางกระแสบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เร่งออกหุ้นกู้วงเงินสูง เพื่อรองรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ (AI) แหล่งข่าวผู้ให้ข้อมูลระบุว่า วงเงินระดมทุนครั้งนี้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินที่ได้ จะถูกนำไปใช้ตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ การใช้จ่ายเพื่อลงทุน ไปจนถึงการซื้อหุ้นคืน โดยในช่วงพีคของการเปิดจอง มีนักลงทุนแสดงความสนใจต้องการลงทุนมากถึงประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่คำสั่งซื้อจะลดลงราวครึ่งหนึ่งเมื่ออัตราผลตอบแทนลดลงระหว่างกระบวนการกำหนดราคา การออกหุ้นกู้ของ Amazon ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก Alphabet ออกหุ้นกู้วงเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสหรัฐฯ และยุโรป เมื่อต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ Meta Platforms ออกหุ้นกู้ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นดีลใหญ่ที่สุดของปี ส่วน Oracle Corp. ก็ระดมทุน 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก.ย. ส่งผลให้การออกตราสารหนี้ทั่วโลกปีนี้ พุ่งทำสถิติใหม่ แตะระดับ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Amazon เคยออกหุ้นกู้ในตลาดสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย. 2022 มูลค่า 8,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
JPMorgan คาดว่า การเร่งลงทุนด้าน AI ของบริษัทยักษ์ใหญ่ จะผลักดันให้ตลาดหุ้นกู้คุณภาพดีในสหรัฐฯ มีมูลค่าการออกหลักทรัพย์ใหม่ ทำสถิติ 1.81 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า ด้านแหล่งข่าวระบุว่า Amazon ออกหุ้นกู้ระดับ Investment grade ทั้งหมด 6 ชุด โดยส่วนต่างราคาของหุ้นกู้ที่มีอายุไถ่ถอนนานที่สุดคือ 40 ปี กับราคาพันธบัตรรัฐบาล หดแคบลงเหลือเพียง 0.85 จุดเปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ 1.15 จุดเปอร์เซ็นต์ โดย Amazon ระบุผ่านอีเมลว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการลงทุนทางธุรกิจ รวมไปถึงใช้เป็นเงินลงทุนในอนาคต และชำระหนี้ที่จะครบกำหนด ปัจจุบัน Amazon เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนระบบ AI โดยบริษัทเดินหน้าทุ่มลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์และชิปประมวลผลเพื่อสร้างและให้บริการโมเดล AI ทั้งด้านการสร้างข้อความ ภาพ และการทำงานอัตโนมัติ ด้านนักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดว่า ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนรวมของ Amazon ในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นแตะ 147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าปี 2023 ถึง 3 เท่า โดย JPMorgan ระบุว่านี่เป็นจังหวะที่เหมาะสม ที่ Amazon ซึ่งก่อนหน้านี้ อาศัยการใช้กระแสเงินสดเป็นหลัก จะเพิ่มสัดส่วนหนี้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นด้านโครงสร้างเงินทุน โดย JPMorgan เสริมว่า Amazon อาจหันไปใช้ตลาดเครดิตภาคเอกชน เพิ่มอีกในอนาคต ที่มา Bloomberg 
|