"ศุภชัย เจียรวนนท์ " ชี้โลกยุคใหม่ถูกกำหนดด้วย 3D พร้อมเสนอยกเครื่องทางโครงสร้างปประเทศ ชู 7 ยุทธศาสตร์ เป็นเข็มทิศเศรษฐกิจไทย เน้นลงทุนพลังงานสะอาด -พัฒนาอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวเนื่อง - ปฏิรูปการศึกษา - ยกระดับกติกาโปร่งใสเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์(CP) เปิดเผยในปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ "POWERING THAILAND’S NEW ECONOMIC FRONTIER ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยบทใหม่" ว่า ตอนนี้ไทยกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายของโลก ซึ่งให้นิยามว่า 3 D ที่กำลังกำหนดกติกาเศรษฐกิจ การเมือง และ สังคมทั่วโลก ประกอบด้วย D แรก คือ Digitalization และ AI ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจที่ต้องเอาข้อมูลไปอยู่ในคลาวด์ ส่งผลให้ทำไม ดาต้า เซ็นเตอร์ ถึงใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว ยกตัวอย่าง สหรัฐฯ มีดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มีความจุ 5-6 กิกะวัตต์ แต่ในปีนี้ครึ่งปีแรกทำการติดตั้งไปแล้ว 5 กิกะวัตต์ และ ครึ่งปีหลังอีก 10 กิกะวัตต์ โดยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ แต่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้ง จีน รวมถึงประเทศไทย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ โดยไทยจำเป็นที่จะต้องเป็นศูนย์กลางดาต้า เซ็นเตอร์ในภูมิภาคนี้ และ วางแผนการลงทุน พร้อมกับดึงห่วงโซ่อุปทานเข้ามาให้ได้ ไม่อย่างนั้น ไทยจะเสียความสามารถในการแข่งขัน D ที่ 2 คือ Deglobalization หรือ การขยับจากระบบโลกขั้วเดียวไปสู่หลายขั้ว โดยเฉพาะสงครามการค้าที่มีจุดเริ่มต้นสหรัฐฯ กับจีน แต่ตอนนี้กลายเป็นรัสเซีย อินเดีย ก็เกิดขึ้นไปแล้ว ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ก็เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้เช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญ D ที่ 3 คือ Decarbonization ภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเปลี่ยนสมดุลนิเวศ ผลิตภาพ และ ต้นทุนเศรษฐกิจอย่างมีนัย หากไม่เร่งลดคาร์บอน ปัญหาน้ำทะเลหนุน น้ำท่วม และ ฝุ่นพิษจะยิ่งกดทับคุณภาพชีวิต ซึ่งภายในระยะเวลาใกล้จะ 5 ปีถึง 10 ปีอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เลวร้ายมากขึ้น 
นอกจากนี้ การสร้างความเท่าเทียมใหม่ต้องตั้งอยู่บน 4 ความจำเป็นใหม่ (4 NEW NECESSITIES) ประกอบด้วย ความรู้และจริยธรรม โดยประเทศไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการศึกษาเพื่อให้ครูเป็นผู้ออกแบบการเรียนรู้ ใช้เทคโนโลยี และ เอไอเป็นเครื่องมือเสริม และ เปิดโอกาสให้เด็กทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และ คอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง , การเงิน โดยการเข้าถึงองค์ความรู้เรื่องการเงิน การเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม ที่จะทำให้เงินออมมีการเติบโต หรือ การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุน ทอง สินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ , สื่อสาร ที่ผ่านมาโครงสร้างพื้นฐานถูกสร้างมาอย่างต่อเนื่อง และ ปัจจุบันอยู่ในยุค 5G นอกจากความเร็วแล้ว ยังต้องขยายให้ครอบคลุมให้มากขึ้น , ระบบประกันสังคม แม้ไทยจะมีระบบประกันสังคม แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมและเพียงพอ โดยเฉพาะประชากรกลุ่มนอกระบบ การสร้างระบบประกันที่เข้าถึงได้ทุกคนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากโรคภัย อุบัติเหตุ หรือ ความไม่แน่นอนในชีวิต การมีหลักประกันที่มั่นคง คือ รากฐานของสังคมที่มีความมั่นใจ และ พร้อมลงทุนในอนาคต อย่างไรก็ตาม คำตอบของไทยไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ คือ การ ยกเครื่องเชิงโครงสร้าง ผ่านกรอบ 7Ts Thailand Transformation ซึ่งทำหน้าที่เป็นเข็มทิศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบด้วย - Tourism Hub & Soft Power ประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่มวยไทย อาหาร ดนตรี จึงอยากเสนอให้ใช้ Soft Power เหล่านี้เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างชื่อเสียงประเทศ พร้อมทั้งยกระดับเมืองอัจฉริยะ และอุตสาหกรรมคอนเทนต์ เพื่อสร้างรายได้และอิทธิพลในเวทีโลก , - Table Hub ประเทศไทยถูกวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางด้านอาหารและสุขภาพ ผ่านการพัฒนา Smart Farming , Food Tech , Biotech และ Health Tech ควบคู่กับการลงทุนเชิงโครงสร้าง และ ยกระดับความมั่นคงทางอาหาร - Treatment Hub บริการทางการแพทย์และสุขภาพระดับโลก , -Trade/Logistics Financial Hub ศูนย์กลางของกิจกรรมทางการเงิน และ ศูนย์กลางการค้าแห่งภูมิภาค , -Tech & Industrial Hub ศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม , -Transmission ระบบโครงสร้างพื้นฐานสายส่งพลังงานรองรับ SMR และ Talent Hub การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมด้วยความรู้ เทคโนโลยี และ จริยธรรมในการใช้ AI อย่างมีคุณธรรม 
|