สื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงควบคุมผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย จากเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ที่เกิดขึ้นบริเวณอาคารที่พักอาศัยของโครงการหวั่ง ฟุก คอร์ต (Wang Fuk Court) ของฮ่องกง ล่าสุด คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 44 ราย และผู้สูญหายเกือบ 300 ราย รายงานของตำรวจระบุว่า ชาย 3 คนดังกล่าวเป็นกรรมการสองคน ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมจากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันพุธ (26 พ.ย.) สาเหตุคาดว่า อาจมาจากนั่งร้านและวัสดุโฟมที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งใช้ในระหว่างงานบำรุงรักษา ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังทำงานตลอดทั้งคืน แต่ยังมีอุปสรรคในการเข้าถึงผู้อยู่อาศัยที่อาจติดอยู่ชั้นบนของอาคาร เนื่องจากความร้อนจัดและกลุ่มควันหนาทึบจากเปลวไฟ อาคารชุดดังล่าวตั้งอยู่ทางตอนเหนือในย่านไท่โป ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร แบ่งออกเป็น 8 บล็อก รวม 2,000 ห้อง และมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 4,600 คน โดยสถานการณ์ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วใน 4 อาคาร และยังคงพยายามควบคุมเพลิงอีก 3 อาคาร 
รายงานของตำรวจยังระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหนึ่งนายรวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต 44 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 45 รายมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤต ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้แซงหน้าเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ในย่านเกาลูนเมื่อเดือนพ.ย. 1996 ที่มีผู้เสียชีวิต 41 ราย และทำสถิติสูงสุดในบรรดาเหตุเพลิงไหม้ในฮ่องกงนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง โดยถูกนำไปเปรียบเทียบกับเหตุเพลิงไหม้ เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ (Grenfell Tower) ในลอนดอนเมื่อปี 2017 ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 72 ราย ภาพจากวิดีโอในที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นเปลวไฟยังคงลุกโชนออกมาจากอาคารสูง 32 ชั้นอย่างน้อยสองหลัง ซึ่งด้านนอกล้อมรอบด้วยนั่งร้านไม้ไผ่และตาข่ายก่อสร้างสีเขียว ขณะที่กลุ่มควันดำหนาทึบพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า นอกจากตัวอาคารที่ถูกคลุมด้วยตาข่ายป้องกันและพลาสติกที่อาจไม่ได้มาตรฐานในการป้องกันอัคคีภัยแล้ว ยังพบว่าหน้าต่างบางส่วนบนอาคารหลังที่ไม่ได้รับผลกระทบ ถูกปิดผนึกด้วยวัสดุโฟม ซึ่งติดตั้งโดยบริษัทก่อสร้างที่เข้ามาดำเนินการบำรุงรักษา ขณะเดียวกัน ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากยังวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ว่ามาจากความประมาทเลินเล่อและการลดต้นทุน โดยวิดีโอหนึ่งเผยภาพคนงานก่อสร้างหลายคนกำลังสูบบุหรี่อยู่บนนั่งร้านไม้ไผ่บนอาคารหลังหนึ่งในช่วงที่ดำเนินการปรับปรุง ซึ่งฮ่องกงได้ประกาศให้ยกเลิกการใข้ตาข่ายก่อสร้างสีเขียวและนั่งร้านไม้ไผ่ มาตั้งแต่เดือนมี.ค. ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ที่มา CNBC 
|