การออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงชะลอตัวลง หลังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ได้ลดทอนความต้องการกู้ยืมของผู้ออกตราสารหนี้ มูลค่าการออกพันธบัตรทั้งหมดที่ระดมทุนในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งตรึงค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 357,700 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนต.ค. ลดลงราว 30% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 1988 การชะลอตัวของการออกพันธบัตร เกิดขึ้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของตลาดการเงินฮ่องกง หรือ HIBOR (Hong Kong Interbank Offered Rate) ยังคงทรงตัวในระดับสูง หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อปลายเดือนก.ย. โดยภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สะท้อนผลจากแรงซื้อในตลาดหุ้นและความพยายามของธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ในการปกป้องกลไกตรึงค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ ไรอัน แลม หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคาร Shanghai Commercial Bank กล่าวว่า การชะลอตัวดังกล่าวเป็น “การปรับฐานหลังจากยอดการออกพันธบัตรที่พุ่งสูงในช่วงหลังฤดูร้อน” โดยก่อนหน้านี้แรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของตลาดการเงินฮ่องกง (Hibor) เกิดจากความต้องการเงินสดของธนาคารที่เพิ่มขึ้น ในช่วงสิ้นไตรมาสเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบทางการเงินตามข้อกำหนด ตลอดจนปัจจัยตามฤดูกาล เช่น ช่วงวันหยุดวันชาติของจีน ในต้นเดือนต.ค.ขณะเดียวกัน ยอดดุลรวม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสภาพคล่องในตลาดเงินระหว่างธนาคาร ลดลงเกือบ 70% เหลือเพียง 54,680 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง จากระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ความต้องการพันธบัตรสกุลเงินฮ่องกงจะทยอยฟื้นตัวในอนาคต เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองหาการกระจายความเสี่ยงออกจากสินทรัพย์สหรัฐ ทั้งนี้ โอลิเวอร์ เกรียร์ หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ระยะกลางระดับโลกของ Standard Chartered Plc กล่าวว่า “เราคาดว่าแนวโน้มในปี 2025 จะยังเห็นผู้ออกตราสารหนี้จากองค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เข้ามาระดมทุนในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงมากขึ้น เนื่องจากขนาดตลาดที่เหมาะสม เงื่อนไขราคา และโอกาสในการกระจายความเสี่ยงที่น่าสนใจ” ที่มา Bloomberg 
|