SAWAD กำไรไตรมาส 3/68 ที่ 1,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตสินเชื่อและควบคุมต้นทุน ท่ามกลางแรงกดดันจากการเศรษฐกิจชะลอ ส่งผล 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 3,693 ล้านบาท

บริษัท ศรีสวัสดิ คอร์ปอเรชัน จํากัด (มหาชน) หรือ SAWAD รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 1,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,300 ล้านบาท

บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 4,126 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (ลดลงเพียง 0.3% QoQ) สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตสินเชือและการควบคุมต้นทุนทางการเงิน

มีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญจาก 317 ล้านบาท เป็น 425 ล้านบาท QoQ หรือ 34.1% บริษัทมีกําไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของ บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน)หรือ THAI จํานวน 85.82 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากการขายประกันภัยทรงตัวเมือเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สภาพเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/68 ยังเผชิญแรงกดดันต่อเนือง โดยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า จากการชะลอตัวของการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ ขณะทีปลายไตรมาสเริมเห็นสัญญาณฟื้นตัวบางส่วนจากการส่งออกและภาคการท่องเทียว ช่วยพยุงภาพรวมเศรษฐกิจให้ทรงตัวได้ในระดับหนึ่ง ในขณะทีพอร์ตสินเชื่อรวมของกลุมธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มหดตัว

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ พร้อมปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในพอร์ตสินเชื่อจํานําทะเบียนซึ่งเป็นฐานรายได้หลัก การบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนือง ร่วมกับการควบคุมต้นทุน ทําให้รายได้ดอกเบียและกําไรสุทธิยังคงเติบโตได้ในสภาวะทีตลาดทัวไปเผชิญความท้าทาย

ณ สิ้นไตรมาส 3/68 บริษัทมีสินเชื่อคงค้างรวม 93,831 ล้านบาท ขยายตัวเล็กน้อย 0.7% จากไตรมาสก่อน สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพแม้ในสภาวะตลาดที่ชะลอตัว โดยสินเชือเช่าซือและสินเชือส่วนบุคคลปรับลดลง 5.2% เมือเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการหดตัวของพอร์ตทังสองประเภท ขณะทีสินเชือจํานําทะเบียนและสินเชือประเภทอืนยังคงขยายตัวได้ดี 3.3% สะท้อนถึง ความต้องการสินเชือทีมันคงในกลุมลูกค้าหลักของบริษัท และความเชือมันต่อผลิตภัณฑ์สินเชือ

งวด 9 เดือนแรกของปี 68 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,693 ล้านบาท ลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,826.78 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิรวม 12,319 ล้านบาท ลดลง 10.3% YoY จาก 13,735 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการหดตัวของยอดลูกหนี้สินเชื่อ เนื่องมาจากนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น เพือให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่บริษัทสามารถยอมรับได้ ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว