Uber Technologies Inc. ยักษ์ใหญ่ด้านบริการเรียกรถจากสหรัฐฯ เตรียมเข้าลงทุนใน 2 บริษัทเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับจากจีน ได้แก่ Pony AI Inc. และ WeRide Inc. ซึ่งเตรียมเสนอขายหุ้น IPO ในฮ่องกง โดยการลงทุนครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญในธุรกิจ Robotaxi พร้อมตั้งเป้ากองรถ Robotaxi ไว้ที่ 100,000 คัน โดยใช้เทคโนโลยีจาก Nvidia ภายในปี 2027 Uber อาจลงทุนราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเสนอขายหุ้นของ Pony AI โดยบริษัทดังกล่าวตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 972 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดฮ่องกง ก่อนพิจารณาใช้สิทธิเพิ่มขนาดดีล (greenshoe option) ทั้งนี้ Pony AI เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว นอกจาก Pony AI แล้ว Uber ยังแสดงความสนใจเข้าลงทุนในการเสนอขายหุ้นของ WeRide ด้วย ขณะที่นักลงทุนรายอื่นที่อาจเข้าร่วมดีลครั้งนี้ ได้แก่ Grab Holdings Ltd. ผู้ให้บริการเรียกรถรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Temasek Holdings Pte กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ และ Robert Bosch GmbH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ซึ่งหลังมีรายงานข่าวดังกล่าว หุ้น Pony AI ในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นราว 6% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขณะที่หุ้น WeRide เพิ่มขึ้นประมาณ 4% โดยทั้ง 2 บริษัทต่างเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ WeRide ยังเปิดขายหุ้นในฮ่องกงเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) เพื่อระดมทุนสูงสุด 398 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ การเจรจายังอยู่ในขั้นดำเนินการ และแผนการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ก่อนหน้านี้ Uber เคยเข้าลงทุนในช่วง IPO ของ Pony AI และ WeRide ในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับ Bosch ที่ถือหุ้นใน WeRide และเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา Uber ยังประกาศลงทุนเพิ่มอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน WeRide นอกจากนี้ Uber ยังจับมือกับ Pony AI เปิดบริการในตะวันออกกลาง และร่วมมือกับ WeRide ในกรุงอาบูดาบี โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดหุ้นเมื่อเดือนพ.ย. 2024 มูลค่าหุ้นของ Pony AI ในสหรัฐฯ ปรับขึ้นมากกว่า 50% ขณะที่ของ WeRide ลดลงราว 28% นับตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว 
ด้าน Grab ซึ่งมีฐานอยู่ในสิงคโปร์ ก็กำลังรุกเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไร้คนขับเช่นกัน โดยเพิ่งลงทุนในบริษัท May Mobility ของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมนำบริการ Robotaxi มาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปีหน้า นอกจากนี้ Grab ยังร่วมลงทุนกับ WeRide เพื่อพัฒนาและให้บริการรถยนต์ไร้คนขับในภูมิภาค ขณะเดียวกัน Uber ประกาศตั้งเป้าสร้างกองรถยนต์ไร้คนขับ จำนวน 100,000 คัน โดยใช้เทคโนโลยีจาก Nvidia เพื่อผลักดันบริการ Robotaxi ให้มีต้นทุนต่ำลงและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น โดยทั้ง 2 บริษัทคาดว่าจะเริ่มการขยายโครงการดังกล่าวในปี 2027 ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยภายใต้ข้อตกลงเดิม Uber ได้ตกลงมอบข้อมูลการขับขี่บางส่วนเพื่อช่วยพัฒนาโมเดลและเทคโนโลยีชิปประมวลผลของ Nvidia ซึ่งสามารถนำไปใช้โดยผู้ผลิตรถยนต์ในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ในงานประชุม GTC Conference ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. Nvidia เปิดตัวแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่ Nvidia Drive AGX Hyperion 10 ซึ่งออกแบบมาให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถติดตั้งฮาร์ดแวร์และเซนเซอร์ที่รองรับซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในโครงการนี้ Stellantis NV ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป จะเป็นหนึ่งในพันธมิตรรายแรกที่ส่งมอบรถยนต์ไร้คนขับกว่า 5,000 คัน ที่ใช้เทคโนโลยีของ Nvidia เพื่อให้ Uber ใช้งานในสหรัฐฯ และตลาดต่างประเทศ โดย Uber จะรับผิดชอบการดำเนินงานของกองรถทั้งหมด ทั้งการดูแลระยะไกล การชาร์จไฟ ทำความสะอาด บำรุงรักษา และบริการลูกค้า ทั้งนี้ การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ Uber ขยายจำนวนรถ Robotaxi บนแพลตฟอร์มได้มากขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและทำให้เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติมีความคุ้มค่ามากขึ้น ปัจจุบัน Uber ได้ร่วมมือกับผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับมากกว่า 12 ราย และบางรายยังได้รับเงินลงทุนโดยตรงจาก Uber ด้วย ที่มา Bloomberg (1) และ (2)

|