รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ มูลค่า 21.3 ล้านล้านเยน หรือราว 135,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (21 พ.ย.) ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรกของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ รัฐบาลจะจัดสรรเงิน 11.7 ล้านล้านเยน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาสินค้าที่สูงสำหรับภาคครัวเรือน ในจำนวนนี้รวมถึงการลดหย่อนภาษี และอีก 7.2 ล้านล้านเยน สำหรับลงทุนในภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการต่อเรือ นอกจากนี้ ยังจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมวงเงิน 17.7 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว 4 ล้านล้านเยน เมื่อรวมกับงบจากบัญชีพิเศษแล้ว จะมีมูลค่ารวม 21.3 ล้านล้านเยน และเมื่อรวมเงินอุดหนุนทั้งในฝั่งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น และการลงทุนภาคเอกชน งบประมาณทั้งหมดจะอยู่ที่ 42.8 ล้านล้านเยน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มีเป้าหมายหลัก 3 ด้าน คือ 1) การปกป้องด้านความเป็นอยู่และรับมือเงินเฟ้อของครัวเรือน 2) การเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ หรือที่นายกฯ ทาคาอิจิเรียกว่า "การลงทุนเพื่อบริหารจัดการวิกฤต" และ 3) การเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศและการทูตของญี่ปุ่น รัฐบาลคาดว่า จะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) ได้ประมาณ 24 ล้านล้านเยน ซึ่งจะทำให้อัตราการเติบโตรายปี เพิ่มขึ้น 1.4% 
มาตรการช่วยเหลือ-ลดภาระค่าครองชีพภาคครัวเรือน - ครัวเรือนจะได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 7,000 เยน สำหรับค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซ ตั้งแต่เดือนม.ค. - มี.ค. 2026 คาดว่า จะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วงเดือนก.พ. - เม.ย. ลง 0.4 จุดเปอร์เซ็นต์
- รัฐบาลจะขยายวงเงินอุดหนุนให้กับหน่วยงานระดับเทศบาล รวมถึงแจกคูปองข้าวและคูปองดิจิทัล เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมทั้งอนุญาตให้ใช้เงินอุดหนุนดังกล่าวสำหรับค่าน้ำประปา
- สำหรับครอบครัวที่มีบุตร จะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 20,000 เยนต่อบุตรหนึ่งคน ซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี โดยไม่มีการจำกัดเพดานรายได้
มาตรการด้านภาษีและการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ - ด้านภาษี คาดว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีจะลดลง 1.5 ล้านล้านเยน จากการยกเลิกภาษีเพิ่มเติมสำหรับน้ำมันเบนซิน และลดลงอีก 1.2 ล้านล้านเยน จากการเพิ่มเกณฑ์รายได้ที่ผู้เสียภาษีจะต้องจ่าย
- ด้านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ จะมีการตั้งโครงการระยะยาว 10 ปี เพื่อสนับสนุนขีดความสามารถในอุตสาหกรรมต่อเรือ โครงการพัฒนาด้านอวกาศ และโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศ
- การจัดสรรงบเพิ่มเติมสำหรับโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังประสบปัญหาต้นทุนจากค่าอุปกรณ์วัสดุและค่าแรงที่พุ่งสูงขึ้น
งบประมาณด้านกลาโหมและการรับมือภัยพิบัติ - จัดสรรงบ 1.7 ล้านล้านเยน สำหรับเสริมความสามารถด้านการป้องกันประเทศและการทูต
- กองทุนรับมือภัยพิบัติ จะได้รับการจัดสรรงบ 700,000 ล้านเยน
ที่มา Nikkei Asia 
|