ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ระบุว่า ยูเครนพร้อมเดินหน้าตามกรอบแผนสันติภาพที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนในการยุติสงครามกับรัสเซีย และพร้อมหารือประเด็นที่ยังเห็นไม่ตรงกันกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยต้องมีพันธมิตรยุโรปเข้าร่วมด้วย ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครน กำลังพยายามเจรจาหาทางออกต่อแผนยุติสงครามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ผลักดัน ซึ่งยูเครนกังวลว่า ฝ่ายตนอาจถูกกดดันให้ยอมรับข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ต่อรัสเซียเป็นหลัก รวมถึงการยอมเสียดินแดนบางส่วน ซึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อกลุ่มพันธมิตรที่เรียกว่า “Coalition of the willing” หรือกลุ่มพันธมิตรผู้เต็มใจ ประธานาธิบดีเซเลนสกี เรียกร้องให้ผู้นำยุโรปร่วมกันจัดทำกรอบการส่งมอบ “กองกำลังเพื่อสร้างความเชื่อมั่น” (reassurance force) เข้าไปประจำการในยูเครน และเดินหน้าสนับสนุนยูเครน ตราบใดที่รัสเซียยังไม่แสดงท่าทีสิ้นสุดการสู้รบซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี เซเลนสกีกล่าวว่า “เรามั่นใจว่าการตัดสินใจด้านความมั่นคง ที่เกี่ยวกับยูเครนต้องมียูเครนร่วมโต๊ะ และการตัดสินใจด้านความมั่นคงของยุโรปต้องมียุโรป” พร้อมเตือนว่าหากมีการตัดสินใจลับหลังประเทศหรือประชาชนประเทศใด ความเสี่ยงที่มาตรการนั้นจะไม่เกิดผลย่อมสูงมาก อีกทั้งยังเสริมว่า “กรอบแผนดังกล่าววางอยู่บนโต๊ะแล้ว และเราพร้อมเดินหน้าร่วมกับสหรัฐฯ ด้วยการมีส่วนร่วมโดยตรงของประธานาธิบดีทรัมป์” 
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ มักเร่งกระบวนการเจรจา ด้วยการประกาศเส้นตาย เช่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทรัมป์คาดหวังว่า จะบรรลุข้อตกลงภายในวันพฤหัสบดี แต่ในคืนวันอังคาร กลับแสดงท่าทีผ่อนคลายลง โดยทรัมป์กล่าวว่า “เส้นตายของผมคือเมื่อทุกอย่างมันจบลง ผมคิดว่าทุกคนก็เหนื่อยกับการต่อสู้แล้ว” นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า แผนสันติภาพ 28 ข้อที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นเพียงแผนภาพหรือแนวคิดเท่านั้น โดยทีมเจรจากำลังพิจารณาทีละข้อและลดทอนรายละเอียดบางส่วน ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า การเจรจาเหลือเพียงไม่กี่ประเด็นที่ยังเห็นต่าง พร้อมสั่งให้สตีฟ วิทคอฟท์ผู้แทนพิเศษ เข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่มอสโก ขณะที่แดน ดริสคอลล์ รัฐมนตรีทบวงการทหารบกของสหรัฐฯ จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ยูเครนในเวลาเดียวกัน โดยฝ่ายยูเครนระบุว่า ดริสคอลล์จะเดินทางถึงกรุงเคียฟในสัปดาห์นี้ ขณะที่ทรัมป์หวังว่าจะได้พบประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีปูตินเร็ว ๆ นี้ แต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อข้อตกลงยุติสงครามเสร็จสมบูรณ์หรืออยู่ในขั้นสุดท้ายเท่านั้น ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังมีรายงานว่าทั้ง 2 ฝ่ายอาจขยับเข้าใกล้ข้อตกลงยุติสงคราม ที่มา Reuters  |