บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยครบวงจร เผยคำแนะนำในการรับมือพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ที่กำลังเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่าจะส่งผลให้หลายพื้นที่ตอนบนของประเทศมีฝนตกเพิ่มขึ้นและตกหนักในบางแห่ง ระหว่างวันที่ 7–9 พฤศจิกายน โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ

นายภคิน เอกอธิคม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วงที่พายุคัลแมกีเคลื่อนตัวเข้าประเทศ คือสถานการณ์น้ำท่วมและลมพายุที่อาจสร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยทั้งผู้ดูแลอาคารและผู้อยู่อาศัยควรเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยแนวทางสำคัญในการดูแลอาคาร มีดังนี้

1. ระบบระบายน้ำ: รางน้ำและท่อที่อุดตันเป็นสาเหตุหลักของน้ำท่วมขัง ควรทำความสะอาดให้โล่งอยู่เสมอเพื่อลดความเสี่ยงน้ำไหลย้อนเข้าบ้านและลดปัญหาความชื้นสะสม ควรมีการตรวจสอบตามแผนบำรุงรักษา และเมื่อมีฝนตกหนักหรือพายุเข้า ควรตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง

2. โครงสร้างอาคาร: โดยเฉพาะหลังคาและผนัง ควรตรวจสอบจุดรั่วซึมหรือวัสดุเสื่อมสภาพและซ่อมแซมก่อนพายุเข้า เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจกระทบต่อโครงสร้างหลักของอาคาร

3. ระบบไฟฟ้า: ตรวจสอบสายไฟและตู้ควบคุมให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัยจากน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรและอัคคีภัย รวมถึงตรวจสอบสายไฟรอบอาคารว่ามีโอกาสร่วงหล่น หรือมีกิ่งไม้หรือสิ่งของปลิวมากระทบจนเกิดความเสียหายหรือไม่ เพื่อป้องกันไฟฟ้าดับหรืออันตรายต่อผู้สัญจร

4. ระบบสำรองไฟ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องปั่นไฟหรือเจนเนอเรเตอร์สามารถทำงานได้ดี และมีน้ำมันสำรองเพียงพอในกรณีไฟฟ้าขัดข้อง เพี่อให้อาคารสามารถใช้ไฟสำรองได้

5. สิ่งของภายนอกอาคาร: เก็บหรือยึดสิ่งของให้มั่นคง เช่น กระถางต้นไม้ กรวยยาง ป้ายโฆษณา หรือเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง เพื่อไม่ให้ปลิวไปสร้างความเสียหาย หากเป็นสิ่งของขนาดใหญ่หรือจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เดิม ควรยึดให้มั่นคงแข็งแรง

6. อัพเดทข้อมูลต่อเนื่อง: ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดทีมตรวจสอบก่อนและหลังพายุ ประเมินความเสียหาย การซ่อมแซม และสื่อสารข้อมูลกับผู้ใช้งานอาคารและผู้อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารทั้งความปลอดภัยและความกังวลอย่างมีประสิทธิภาพ

7. อุปกรณ์ฉุกเฉิน: เตรียมเครื่องสูบน้ำ ไฟฉาย เครื่องปั่นไฟ และชุดปฐมพยาบาลไว้ในจุดที่เข้าถึงง่าย เพื่อรองรับสถานการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานอาคารหรือผู้อยู่อาศัย

เมื่อเกิดฝนตกหรือพายุ การอยู่ภายในอาคารคือทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้น ผู้ดูแลอาคารจึงควรวางแผนและเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านโครงสร้าง ระบบอาคาร และมาตรการความปลอดภัย เพื่อให้อาคารสามารถรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยในทุกสถานการณ์