JMART คาด Q4/68 โตต่อเนื่อง รุกหนักตลาดสินเชื่อมือถือ มั่นใจ JMT จะกลับมาสดใสเหตุหนี้เสียในตลาดยังพุ่ง ฟาก "สุกี้ตี๋น้อย" เตรียมแผนใหญ่ปีหน้า ลุยเปิดสัปดาห์ละ 1 สาขา พร้อมยันเจ้าหนี้หุ้นกู้สบายใจได้ เตรียเงินสดคืนหุ้นกู้ครบเต็มจำนวน นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยในงาน Opportunity Day ในวันนี้ว่า ในไตรมาส 4/68 วางเป้าหมายจะพา Jaymart Mobile , SINGER , KB J Capital และ SG CAPITAL ให้เติบโตในธุรกิจมือถือได้มากขึ้นต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยภาพรวมของธุรกิจมือถือ จะแยกเป็น 3 กลุ่ม คือ iPhone , SAMSUNG และแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นไชน่าแบรนด์ ซึ่งในกลุ่ม KBJ จะดูแลสินค้า SAMSUNG และ SGC ให้กลุ่มไชน่าแบรนด์ และในไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทเริ่มทำแซนด์บ็อกซ์ในร้าน Jaymart กับ แบรนด์ iPhone 
ปัจจุบัน การซื้อมือถือผ่านสินเชื่อ ยังเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้อย่างเนื่อง สะท้อนจากสัดส่วนการซื้อเครื่องเงินสด ปัจจุบันมีเพียง 10% เท่านั้น ขณะที่การซื้อผ่านบัตรเครดิต 25% และ 60-70% จะใช้บริหารสินเชื่อที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป บริษัทจึงมองว่าความต้องการในการใช้สินเชื่อในการซื้อมือถือยังมีอยู่ต่อเนื่อง จึงมองเห็นโอกาสในตลาดดังกล่าว ส่วนธุรกิจที่เป็น core business อย่าง JMT มองว่ายังเป็นโอกาส เพราะในตลาดหนี้ที่มีอยู่ในตลาด ปัจจุบันผู้เล่นในตลาด ยังไม่สามารถรองรับหนี้ทั้งหมดที่มีในตลาดได้ ดังนั้น JMT ถือเป็นผู้เล่นที่มีความแข็งแรง มีประสบการณ์ และมีบทบาทในการติดตามหนี้สินมากกว่า 20 ปี ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสในปีหน้าที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น ด้านการลงทุนในสุกี้ตี๋น้อย Suki Teenoi เชื่อว่าเป็นความโชคดีของทางกลุ่มที่ได้ร่วมทำงานและสามารถทำให้มีการขยับขยายได้มากขึ้น โดยปีหน้าจะมีการขยายทั้งแนวตั้งและแนวนอนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากดูการขับเคลื่อนในธุรกิจทั้งหมด มองว่า จะเทิร์นอะราวด์ ตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 ต่อเนื่องถึงปี 2569 “ที่ผ่านมา ที่บริษัทเริ่มทำเงินผ่อนโทรศัพท์มือถือ ทั้ง KBJ และ SGC ให้สินเชื่อ 2,000 กว่าล้านบาทต่อเดือน ขณะที่การควบคุม NPL ที่ตั้งแต่ดำเนินการมาปัจจุบัน NPL ไม่เกิน 2% ซึ่งเชื่อว่าเป็นธุรกิจที่ดีในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้”นายอดิศักดิ์ กล่าว นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4/2568 คาดว่าธุรกิจ Jaymart Mobile หรือ ธุรกิจจำหน่ายมือถือจะมีสาขาใหม่ๆ ที่สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น มีการใช้สินเชื่อมือถือมากขึ้น ขณะที่ผลการดำเนนิงานของ JMT คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2568 ด้าน KBJ และ Singer & SGC ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้าน Suki Teenoi มองในเรื่องการขยายสาขา และ Jas Asset เป็นธุรกิจที่พยายามจะปรับไปสู่จุดคุ้มทุนได้เร็วที่สุด “แนวโน้ม มองเป็นทิศทางเป็นบวก และดีขึ้นจากไตรมาส 3/2568 เพราะธุรกิจมือถือ หรือ โมบาย มียอดปล่อยสินเชื่อเติบโตเป็นส่วนสำคัญ JMC เข้าซื้อช่วงไฮซีซั่นของการจัดเก็บ และไตรมาสสุดท้ายมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อการจับจ่ายใช้สอยด้วย”นายปัญญา กล่าว ส่วนแผนการคืนหุ้นกู้ของบริษัทนั้น ปัจจุบันภาระหุ้นกู้ในทุกบริษัท ตั้ง JMART JMT Jas Asset SINGER ไม่ได้ขอยืดระยะเวลา หรือ ผิดนัดชำระหนี้ โดยบริษัทจ่ายคืนหุ้นกู้ครบได้ตามกำหนด โดยในช่วง 1 ปีข้างหน้าจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 2,176 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมกระแสเงินสดไว้ครบเรียบร้อยแล้ว และมีแหล่งเงินที่จะคืนหุ้นกู้ไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องต้องกังวลเรื่องกระแสเงินสด (cash flow) นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-สายงานการลงทุน JMART กล่าวว่า ผลประกอบการสุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi) ณ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา มีสาขารวมทั้งสิ้น 96 สาขา ประกอบด้วย สุกี้ตี๋น้อย 88 สาขา บาร์บีคิว 7 สาขา และสุกี้ตี๋น้อย โกลด์ 1 สาขา สำหรับการขยายสาขานั้น บริษัทยังคงเดินหน้าสาขาในต่างจังหวัดเพื่อครอบคลุมมากขึ้น ส่วนแผนการขยายสาขานั้น ภายในสิ้นเดือนนี้จะเปิดสุกี้ตี๋น้อย โกลด์ 2 สาขาในกรุงเทพ และปีหน้ายังจะเปิดขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนสุกี้ตี๋น้อยปีหน้าตั้งเป้าหมายทุกสัปดาห์จะเปิด 1 สาขาในหลากหลายจังหวัด นายดุสิต สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับภาพของ JMART Mobile แนวโน้มในไตรมาส 4/2568 ยังมั่นใจว่าจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจะมาจากการเปิดตัวมือถือในหลายแบรนด์ เช่น iPhone17 , xiaomi และในแบรนด์ต่างๆที่ทยอยเปิดตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการ Jaymart Loan ด้วย ซึ่งจะทำให้ไตรมาส 4/68 มียอดปล่อยสินเชื่อได้ถึง 950 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเมินว่าปีนี้ในกลุ่ม Community Mall ในปีนี้คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 514 ล้านบาท และปีหน้าที่ 600 ล้านบาท โดยจะเน้นการเพิ่มพื้นที่ขาย ราคาต่อตารางเมตร ต้นทุนในการบริหารศูนย์การค้า เพื่อทำให้บริษัทมีกำไรที่แข็งแรงในระยะเวลาอันสั้น และพยายามปรับศูนย์การค้าให้เป็นมิกซ์ยูสมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีกิจกรรมให้ลูกค้าได้มากขึ้นด้วย 
|