จิตตะ เวลธ์ ชี้คนไทยติด “กับดักกองทุนรวม” ผลตอบแทนต่ำ–พลาดโอกาสสร้างความมั่งคั่ง เปิดตัว Omni Fund กองทุนส่วนบุคคลเจ้าแรกในไทย บริหารพอร์ตกองทุนรวมอัตโนมัติด้วย AI กระจายความเสี่ยงด้วยทฤษฎีระดับโลก MPT ปิดทุกปัญหาการลงทุนกองทุนรวม เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท
นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) สตาร์ตอัปสัญชาติไทยที่มีจํานวนกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหารมากที่สุดในประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันการลงทุนในกองทุนรวมถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนไทยในการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว แต่ในความเป็นจริง กลับพบว่านักลงทุนไทยยังประสบปัญหาการลงทุนที่ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามคาดหวัง โดยที่ผ่านมามีงานวิจัยและรายงานของหน่วยงานกำกับตลาดทุนที่บ่งชี้ถึงปัจจัยที่ทำให้คนไทย “ไม่ประสบความสำเร็จ” ในการลงทุนกองทุนรวม มาจากค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมการลงทุนตามอารมณ์ และการเลือกกองทุนโดยไม่สอดคล้องกับแผนการเงินส่วนบุคคล “สิ่งที่นักลงทุนหลายคนมักละเลยคือค่าธรรมเนียมซื้อขายและค่าธรรมเนียมจัดการกองทุนรวม ทำให้ผลตอบแทนที่แท้จริงในระยะยาวออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ขณะเดียวกันพฤติกรรมการเงิน ของนักลงทุนไทยที่มักมีอคติทางจิตวิทยา นำไปสู่การซื้อกองทุนตามกระแส หรือพยายามจับจังหวะตลาด ทำให้ผลตอบแทนระยะยาวไม่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่รับได้ และที่สำคัญคือ นักลงทุนจำนวนมากไม่จัดสัดส่วนสินทรัพย์ (Asset Allocation) ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเงินและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตลงทุนที่มีอยู่ให้น้ำหนักกับสินทรัพย์เสี่ยงเกินไปในบางช่วงเวลา ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นกับดักที่ทำให้พอร์ตของนักลงทุนไม่สามารถเติบโตตามแผนที่ตั้งใจไว้” นอกจากนี้ในยุคโลกอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ เราได้เห็นความต้องการออกไปลงทุนต่างประเทศมีมากขึ้น และถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคของนักลงทุนไทยที่ยัง “ไม่รู้จะลงทุนต่างประเทศอย่างไร เลือกกองทุนไหนดี” และที่สำคัญ “มีเงินไม่มากพอจะสร้างพอร์ตที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า บลจ.จิตตะ เวลธ์ จำกัด เล็งเห็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนไทย จึงได้พัฒนา Omni Fund กองทุนส่วนบุคคลเจ้าแรกที่มีระบบลงทุนในกองทุนรวม บริหารจัดการครบทุกขั้นตอน ครบ จบในที่เดียวกัน ทั้งการเลือกองทุน ซื้อขาย และปรับพอร์ตให้นักลงทุนแบบอัตโนมัติ ด้วยอัลกอริทึมที่ออกแบบมาช่วยจัดพอร์ตลงทุนทั่วโลกตามทฤษฎีการจัดพอร์ตรางวัลโนเบลระดับโลกแบบ Modern Portfolio Theory (MPT) เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ต่างประเทศผ่านกองทุนรวมไทย เพื่อให้พอร์ตเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน แนวคิดการจัดพอร์ตแบบ MPT เป็นทฤษฎีที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว หัวใจสำคัญคือการคำนวณและจัดสินทรัพย์ให้อยู่ในจุดที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้ (efficient frointier) อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนทั่วไป โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดมีความผันผวนสูงเช่นนี้ นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า Omni Fund ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกได้ง่ายขึ้นด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และเพิ่มทุน (DCA) ครั้งละ 1,000 บาท มีแผนลงทุนให้เลือก ทั้งแผนเติบโต สมดุล หรือ พอเพียง ตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของแต่ละคน และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ Omni Fund คือการปรับพอร์ตอัตโนมัติ (Auto Rebalance) ตามหลักการ ช่วยลดความเสี่ยงและรักษาสัดส่วนสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับเหมาะสมตลอดเวลา จากการพิสูจน์ผลตอบแทนย้อนหลังของการลงทุน Omni Fund สามารถสร้างผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อปีที่ 7.85% สำหรับแผนเติบโต และจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นหากมีการเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอ (DCA) ตามระบบที่ออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาว สร้างโอกาสให้นักลงทุนที่ต้องการมีพอร์ตหลักตามหลักการ Core & Sattelite ซึ่งเป็นสูตรหลักของการลงทุนที่ Jitta Wealth แนะนำเพื่อช่วยให้พอร์ตมีเสถียรภาพรับมือกับความผันผวนได้ทุกสถานการณ์ “Omni Fund ออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนได้ DCA อย่างมีวินัยเพื่อไปถึงเป้าหมายการเงินและเพื่อให้เป็นพอร์ตหลัก (Core Port) ตามหลัก Core & Sattelite ซึ่งจะช่วยให้พอร์ตลงทุนผันผวนน้อย ทนทานต่อทุกวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดได้ในยุคนี้” นายตราวุทธิ์ กล่าวอีกว่า Omni Fund เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในตลาดโลกแต่ยังขาดประสบการณ์ อยากเริ่มต้นลงทุนอย่างมีหลักการ แต่ไม่มีเวลาติดตามตลาดหรือวิเคราะห์กองทุนด้วยตนเอง หรือมีเงินจำนวนน้อยแต่ต้องการผลลัพธ์แบบมืออาชีพ ผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตระยะยาวเพื่อการเกษียณที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และสามารถ DCA สร้างผลตอบแทนทบต้นเติบโตมั่งคั่งได้ “Omni Fund ตอบโจทย์นักลงทุนที่อยากลงทุนต่างประเทศ แต่ลงไม่เป็น ไม่รู้จะลงทุนประเทศไหนดี ไม่มีเวลาติดตามหรือปรับพอร์ตให้เหมาะกับสถานการณ์โลก โดยเฉพาะเมื่อตลาดเกิดความผันผวน ทำให้เสียโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว เป็นกับดักการลงทุนที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหมู่นักลงทุนไทย แต่เทคโนโลยีในการบริหารพอร์ตจาก Jitta Wealth จะช่วยให้นักลงทุนเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมีเงินก้อนใหญ่ และไม่ต้องคอยติดตามตลาดทุกวัน แต่สร้างพอร์ตลงทุนแบบมืออาชีพที่สร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ต้องการได้” นายตราวุทธิ์ ยังย้ำว่า จิตตะ เวลธ์ เชื่อมั่นว่า Omni Fund จะเข้ามาช่วยคนไทยที่ปัจจุบันมีการลงทุนในกองทุนรวมอยู่ราวๆ 1.5-2 ล้านคน ให้สามารถจัดพอร์ตกองทุนรวมได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายทางการเงินที่วางแผนไว้ สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล Omni Fund สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.jittawealth.com หรือปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนได้ที่ LINE @JittaWealth ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีต ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน
เกี่ยวกับ Jitta ก่อตั้งเป็นสตาร์ตอัป WealthTech ในเดือนมีนาคม 2555 ด้วยพันธกิจคือ Help investors create better returns through simple investment methods (ช่วยนักลงทุนสร้าง ผลตอบแทนที่ดีกว่าด้วยวิธีการที่ง่ายกว่าเดิม) เริ่มจากการพัฒนาแพลตฟอร์ม วิเคราะห์หุ้นพื้นฐานดี จากงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี เพื่อทำให้นักลงทุนทั่วโลก เฟ้นหา ‘หุ้นดีราคาเหมาะสม’ ที่นำไปใช้ได้จริง โดยไม่ต้องศึกษาและวิเคราะห์งบการเงินด้วยตัวเอง ปัจจุบันแพลตฟอร์ม Jitta ครอบคลุมการวิเคราะห์หุ้น 28 ประเทศ สแกนหุ้นมากกว่า 42,000 บริษัท และใช้งานได้ทุกฟีเจอร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับ Jitta Wealth เป็นส่วนหนึ่งของ Jitta ก่อตั้งในเดือนสิงหาคม 2561 ต่อยอดองค์กรมา เพื่อทำธุรกิจบริหารกองทุนส่วนบุคคล โดยพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และเทคโนโลยีลงทุนอัตโนมัติ จึงเป็นสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคล เลขที่ ลค-0105-01 กำกับดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ปัจจุบัน Jitta Wealth มี 5 นโยบายลงทุนผ่านหุ้นรายตัวได้แก่ นโยบาย Jitta Ranking ลงทุนผ่าน ETF ได้แก่ นโยบาย Jitta Money นโยบาย Global ETF และนโยบาย Thematic และล่าสุดลงทุนผ่านกองทุนรวมได้แก่ นโยบาย Omni Fund โดยใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์คุณภาพสินทรัพย์ และบริหารพอร์ตลงทุนอย่าง มีวินัย เพื่อการลงทุนระยะยาว |