การเติบโตสะดุดด้วยปัจจัยลบภายในของตัวเองEvent ปรับลดประมาณการกำไรปี 2569F, ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2569F และ ปรับลดคำแนะนำ Impact แผนลงทุนระบบ IT ใหม่กระทบคชจ.ดำเนินงานพิ่มขึ้นในปี 2569F KTC เผยว่ามีแผนจะอัพเกรดเครือข่าย IT หลัก (IT backbone) ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อ 1.) ปรับปรุงแอพฯ ของ KTC 2.) ขยายธุรกิจใหม่ในด้านการเป็นตัวแทนขายประกัน 3.) ประสิทธิภาพของต้นทุน และ กลยุทธ์การตลาด โดย IT backbone ใหม่นี้จะเข้ามาแทนเครือข่ายเดิมที่บริษัทใช้มาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งแผนการปรับปรุงระบบ IT นี้จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเข้ามาในงบกำไร/ขาดทุน และ ทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ (C/I ratio) เพิ่ม 1-2% ในปี 2569F ถึงแม้ว่าบริษัทจะไม่ได้เปิดเผยงบในส่วนนี้ แต่สัดส่วน C/I ที่เพิ่มขึ้น 1-2% คาดจะทำให้คชจ.ดำเนินงานเพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 ล้านบาทต่อปี รายได้จะยังโตช้าในปี 2568-2569F บริษัทเปิดเผยว่าการบริโภคในประเทศ และ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้สินเชื่อของบริษัทโตต่ำเพียง 1% ในขณะที่รายได้โตเพียง 0.6% ในงวด 9M68 ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิโตได้ 3% ในงวด 9M68 คือค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลดลงประมาณ 9% โดย credit cost ลดลงเป็น 5.7% ในงวด 9M68 (จาก 6.3% ในงวด 9M67) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังอ่อนแอ บริษัทจึงคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัว 5% ซึ่งเรายังมองว่าเป็นระดับที่ท้าทายอยู่ดี อัตราภาษีจ่าย (effective tax rate) เพิ่มเป็น 24-25% ในปี 2569F จากการตัดสิทธิประโยชน์ภาษีใน KTBL การที่อัตราภาษีจ่ายจริงทยอยขยับสูงขึ้นติดต่อกันมาสามไตรมาสแล้วเป็นเกือบ 26% ใน 3Q68 และ 24.7% ในงวด 9M68 บริษัทชี้แจงว่าเป็นผลกระทบจากการตัดสินไม่ขยายธุรกิจของ KTBL ส่งผลให้ KTC ตัดรายการสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก KTBL ซึ่งบันทึกเป็นสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (deferred tax assets) โดยบริษัทเผยว่ารายการทางบัญชีนี้จะทำให้อัตราภาษีจ่ายจริงสูงต่อเนื่องที่ 24-25% ในปี 2569F ปรับลดกำไรปี 2569F ลง 4% ลดราคาเป้าหมายปี 2569F เป็น 29.00 บาท และ ปรับลดคำแนะนำเป็นถือ เนื่องจากกำไรในงวด 9M68 คิดเป็น 76% ของประมารการกำไรเต็มปีของเรา ดังนั้น เราจึงมองว่าประมาณการปี 2568F ของเราไม่มีความเสี่ยง แต่ถึงแม้เราจะไม่ปรับประมาณการกำไรปีนี้ แต่เราปรับสมมติฐานบางข้อดังนี้ 1.) ปรับลด credit cost ปี 2568F/2569F เป็น 5.4%/5.4% (จากเดิมปีละ 5.8%) 2.) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และสัดส่วน C/I ratio เป็น 34.5%/35.5% (จากเดิมปีละ 34.5%) 3.) ปรับเพิ่มอัตราภาษีจ่ายจริงเป็นปีละ 24.5% (จากเดิม 20%) นอกจากนี้ เรายังคงสมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อไว้ที่ปีละ 3.5% และ คาดว่าต้นทุนการระดมเงินจะลดลงมาอยู่ที่ 2.6%/2.3% นอกจากนี้ เรายัง de-rate PE เป็น 10x (จาก 12.5) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2569F ที่ 29 บาท (จากเดิม 38 บาท) และ ปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็นถือ Risks รายได้โตลดลง, NPLs เพิ่มขึ้น และ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น Chalie Kueyen 66.2658.8888 Ext. 8851 chaliek@kgi.co.th |